http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

เล่าสู่กันฟังครับ

(อ่าน 1500/ ตอบ 3)

มดแดง

ผมเป็นริดสีดวงมาประมาณ 8 ปีครับ (มีติ่งยื่นออกมาทุกครั้งที่ถ่าย แล้วก็ใช้นิ้วดันกลับได้)


เรื่องอาหารไม่ค่อยได้ระวังครับ ทานหมดทุกอย่าง ทำให้บางครั้งเกิดอาการท้องผูกบ้าง ท้องเสียบ้าง ก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา (ถ่ายเสร็จก็ดันติ่งนั้นเข้าไป)


เคยเกิดอาการเลือดหยดออกมา หลังจากถ่ายเสร็จเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนครับ  เป็นอยู่ 2-3 วันก็หายเป็นปกติ


ครั้งนี้ (เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 55) ก็เบ่งถ่ายอีกครั้ง (ช่วงนี้ดื่มน้ำน้อย ทำให้อึก้อนแรกที่ออกมาจะแข็งครับ) ปรากฎว่าเลือดหยดเมื่อถ่ายเสร็จครับ  -- ก็เลยใช้กระดาษทิชชูซับเลือด แล้วใช้พร็อคโตซิดิลแบบขี้ผึ้งทา แล้วค่อยดันติ่งกลับเข้าไป  ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ลดอาหารหนัก งดดื่มกาแฟ และแอลกอฮอล์ / ทานข้าวขาวน้อยลง และดื่มน้ำต่อวันมากขึ้น


อาการดีขึ้นภายใน 2 วันครับ (แต่หลังถ่าย เอาทิชชูซับดู ยังมีรอยเลือดอยู่ แต่ไม่หยดแล้ว) พร้อมๆไปกับได้ข้อมูลประสบการณ์จากเพื่อนๆในนี้ เลยไปซื้อยาของภูหลวงมาลองทานดู (ตอนนี้ทานไป 6 วันแล้ว) แต่ยังไม่เห็นผลอะไรนะครับ


เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว ดันท้องเสียเมื่อ 2 วันก่อน ถ่ายเสียอยู่ 3 ครั้ง  รู้ตัวเลยว่าต้องแย่ลงแน่ (เลือดคงหยดอีก) แล้วก็จริงอย่างที่คิดครับ เกิดอาการหลังจากหยุดถ่ายเสีย 1 วัน เลือดสดหยดตามหลังการถ่าย แถมรู้สึกเจ็บเพิ่มขึ้นอีก  เลยคิดว่าต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกแล้ว (ปกติเป็นคนธาตุอ่อนครับ)


ผมไม่กลัวเลือดออกนะครับ เพราะรู้สภาวะร่างกายของเราดี มีแผลก็ต้องมีเลือดออกเป็นเรื่องปกติ แต่กังวลเรื่องธาตุของตัวเองนี่แหละครับ ตอนนี้ (6 สิงหาคม 55) อาการท้องเสียหายไปแล้ว


แต่ถ้าเพื่อนๆรู้ หรือเจ้าหน้าที่รู้  ช่วยบอกผมทีครับ ว่ามีวิธีรักษาแผลบ้างมั้ย  นั่งถ่ายทีไร ติ่งก็จะโผล่ออกมา จะเจ็บก็ตอนที่มันกำลังโผล่ออกนี่ล่ะครับ (คงจะมีแผล) พอโผล่ออกมามันก็ตึง ถ่ายไม่แข็ง หรือไม่เบ่ง ก็ยังเจ็บ


แต่ยังคงทานยาภูหลวงทุกวันครับ  หวังว่าแผลเลือดออกจะดีขึ้นในเร็ววัน



เล่าสู่กันฟังครับ


มดแดง





เจ้าหน้าที่


วิธีรับประทานยา.....


กรณี คนธาตุปกติ หรือ ธาตุแข็ง ..... การทานยานะคะ.. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงคะ (ควรทานยาก่อนอาหารเพราะร่างกายจะได้นำยาไปใช้ได้เต็มที่คะ ถ้าทานพร้อมมื้ออาหารประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปด้วย)  ... 


กรณี คนธาตุอ่อน หรือ ถ่ายมากกว่าวันละ 1 ครั้ง ท้องเสียบ่อย..... การทานยานะคะ.. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา หลังอาหาร 2 ชั่วโมงค่ะ


ถ้าช่วงนี้มีอาการเจ็บมาก ให้ทาน ยาของเราคู่กับยาแก้อักเสบ แต่ยาทานยาแก้อักเสบแค่ 7 วันพอ เพราะเป็นยาปฎิชีวนะ (ยาปฎิชีวนะ ถ้าทานมากเกินไปจะเกิดการสะสมคะ ไม่ดีต่อร่างกาย)หลังจากนั้นแล้ว ( 7 วัน) ก็ให้ทานแต่ยาของบริษัทอย่างเดียว



--------------------------------------------
-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง แต่ถ้าธาตุอ่อนทานเป้นหลังอาหาร 2 ชั่วโมง ...



-- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด



-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน



-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....  ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย



-- ถ้ามีเวลาลองนั่งแช่น้ำอุ่นบ้างนะคะ ... จะช่วยให้เส้นเลือดคลายตัวไม่เจ็บมาก ..
-------------------------------------------



ถ้า กรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่ กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่รับรองคะว่าหายแน่คะ ปัจจัยที่ว่านะคะ



1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น



2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 



3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บาง คนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึก ว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ



4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว



5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลาย ติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา



6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก



7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจ จะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ



---------------------------------------------------



สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ




มดแดง

สวัสดีครับ


ธาตุเริ่มปกติครับ เลยคิดว่าจะทานยาก่อนอาหารต่อไป การขับถ่ายก็ตรงเวลาได้สองวันแล้วครับ (เช้า 6.30)


แต่ช่วงนี้ลมในท้องเยอะ รู้สึกโครกครากช่วงท้องส่วนล่างประมาณช่วงหลังมื้อเที่ยงน่ะครับ 


-- เกี่ยวกับสมุนไพรมั้ย -- 


หรือว่าเพราะมื้อเช้าเราทานน้อยเกินไป ทำให้ท้องว่าง เลยเกิดลมครับ?


สถานการณ์ล่าสุดคือ เมื่อเที่ยงเผลอไปนั่งจะถ่ายครับ ออกมานิดเดียว รูทวารเลยเปิดน้อย ทีนี้ก็ดันติ่งกันเต็มที่เลย


ผลก็คือ มีอาการปวดมานิดนึง เพราะเราดัน แต่ไม่มีเลือดหยดครับ (ซึมที่กระดาษมาหยดนึง)


-- ชักอยากแช่น้ำอุ่นแล้วสิ --

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view