http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

สอบถามเรื่องอาการและยารักษาริดสีดวงคะ

(อ่าน 1415/ ตอบ 3)

กิ๊บ

ขอเกริ่นก่อนนะคะ เผื่อจะเป็นตัวช่วยในการขอคำอธิบายคะ


1.ปกติไม่ได้เป็นคนถ่ายยากหรือต้องเบ่งอยู่แล้วคะ นานๆถึงจะเป็นที  แต่เป็นคนที่่ปวดถึงจะเข้าคะไม่ชอบไปนั่งนานๆถ้าไม่ปวด


2.แทบไม่เคยถ่ายเป็นเลือดหรือมีมูกเลือดเลยคะ


3. ไม่ได้เป็นคนทานอาหารรสจัดตลอด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ สำหรับกาแฟนานๆครั้งคะ


4. อายุ 23 คะ


หลังจากอ่านตามกระทู้ในเวบบอร์ด ที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะมี 4 ระยะ


ขอบอกอาการตัวเองเลยนะคะ



เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (19/05) ได้เข้าไปนั่งถ่าย และก็รุ้สึกดหมิอนทุกครั้งเวลาที่ถ่ายไม่สุดแต่ไม่ได้พยายามเบ่งว่าต้องให้สุด ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย


แต่ปรากฏว่าคืนนั้น รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ตรงทวาร ตอนแรกคิดว่าคงเป็นเพราะถ่ายไม่สุด พอตอนเช้ามาก้เลยไปนั่งอีกรอบ แต่ก้ไม่มีอุจจาระออกมา แต่พอทำความสะอาดกลับจับไปเจอติ่งเนื้อคะ



ตอนแรกตกใจมากคะ ว่าเป็นอะไร มันเป็นติ่งเนื้ออกมา เจ็บๆแสบๆนิดหน่อย


เลยมาหาข้อมูลในเวบไซต์ จึงคิดว่าน่าจะเป็นริดสีดวงแน่ เห็นในเวบไซต์ว่ามี 4 ระยะ


ลองเข้าห้องน้ำพยายามดันติ่งกลับเข้าไปดู  คือมันเหมือนจะดันกลับเข้าไปได้คะ


แต่ด้วยความกลัว ไม่เคย แล้วก็กลัวมันจะอักเสบหรือระบมยิ่งกว่าเดิม ก็เลยไม่ดันมันเข้าไป


แต่เห็นระยะที่ 4 บอกว่า ติ่งยิ่นออกมาและไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ แต่เห็นหลายคนที่เป็นระยะนี้ คือมีเลือดออกตลอดเวลาด้วย



แต่นี่หนูไม่มีเลือดออกคะ แค่เจ็บๆแสบๆ เวลาลุกนั่งเสียดสีหรือขยับตัว


แต่รู้สึกตลอดเวลาว่ามีติ่งอยู่  แต่ตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ที่รู้ตัวว่าเป็นก็ยังไม่ได้ถ่ายเลยคะ


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าทานอาหารน้อยอยู่แล้วด้วยรึเปล่า แต่ทานครบทุกมื้อนะคะ



ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงคะ คิดว่าจะซื้อสมุนไพรภูหลวงมาทาน เห็นมีร้านตัวแทนจำหน่ายตรงราชเทวี เขาขายราคาเท่าไหร่คะ แล้วถ้าไปจะมีของแน่ึรึเปล่าคะ



แต่ตกลงว่า จากอาการที่แจ้งมา ตอนนี้ที่หนูเป็นอยู่น่าจะเป็นระยะไหนคะ


และควรจะทำตัวยังไงดี ยอมรับว่ากลัวและเครียดมากๆคะ กลัวจะเป็นหนักกว่าเดิม


แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันคงอยู่ในช่วงอักเสบ เพราะเจ็บๆแสบๆคะ ไม่กล้าดันมันเข้าไป


แล้วที่บอกว่าคนที่มีติ่งเนื้ออกมาแล้ว แสดงว่าอาจเป็นมานานแล้วแต่ติ่งอยู่ข้างในเลยไม่รู้


แต่ในเคสของหนูนี่ ไม่เคยมีอาการถ่ายแล้วเลือดออกเลย น่าจะเพิ่งเป็นแต่ว่ามาเป็นภายนอกเลยรึเปล่าคะ



รบกวนด้วยคะ กังวลใจมากๆๆ




เจ้าหน้าที่

1.ปกติไม่ได้เป็นคนถ่ายยากหรือต้องเบ่งอยู่แล้วคะ นานๆถึงจะเป็นที  แต่เป็นคนที่่ปวดถึงจะเข้าคะไม่ชอบไปนั่งนานๆถ้าไม่ปวด


การนั่งถ่ายนานๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นริดสีดวงทวารได้ค่ะ



2.แทบไม่เคยถ่ายเป็นเลือดหรือมีมูกเลือดเลยคะ



ปกติแล้วคนที่เป็นริดสีดวง บางคนมีอาการถ่ายเป็นเลือด  บางคนก็ไม่มี --- บางคนมีอาการคันร่วมด้วย บางคนก็ไม่มี บางคนมีอาการเจ็บ บางคนก็ไม่มี    สาเหตุที่แต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกันเนื่องจากต้องดูด้วยว่าเส้นเลือดดำที่โป่งพอง หรือ อักเสบ ภายในทวารหนัก เกิดขึ้นบริเวณไหน ถ้าเกิดบริเวณที่เวลาถ่ายอุจจาระ แล้วไปโดน เสียดสีกับเส้นเลือดดำที่อักเสบหรือโป่งพองอยู่ เวลาถ่าย ก็จะเจ็บ แสบ และ มีโอกาสมีเลือดปะปนออกมา แต่ถ้าจุดที่เกิดหัว หรือเส้นเลือดที่อักเสบ ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งที่อุจจาระไปโดน อาการถ่ายเป็นเลือด เจ็บ แสบ บางคนก็ไม่มีอาการคะ


3. ไม่ได้เป็นคนทานอาหารรสจัดตลอด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ สำหรับกาแฟนานๆครั้งคะ


ถ้าหมายถึงอาหารแสลงนะคะ .... อาหารแสลงของ แต่ละคนที่เป็นริดสีดวง ... ไม่เหมือนกัน บางคนก็ไม่แสลงกับอาหารชนิดไหนเลย บางคนก็แสลงกับอาหารมากกว่า 1 อย่าง ต้องสังเกตุเองค่ะ .... อาหารแสลง คือ ... อาหารที่เราทานไปแล้วแสลงกับโรคที่เราเป็นอยู่ แต่หลายคนจะไม่รู้ อย่างเช่น เราชอบกินส้มตำปูเค็ม ... บางคนกินปูเค็มแล้วก็เห็นว่าไม่แพ้ ก็กินต่อไป แต่ไม่รู้ว่ามันแสลงกับหัวริดสีดวงของเรา คือสังเกตุได้จากเป็นมากขึ้น ... เช่น คนเคยถ่ายเป็นเลือด ตอนไม่ได้ทานก็ดีขึ้น พอทานเข้าไปก็มีอาการถ่ายเป็นเลือดออกมาอีก ... หรือคนที่ติ่งเริ่มยุบ พอทานเข้าไป ก็กลับขึ้นมาอีกหรือ ถ้าหนักหน่อยหัวริดสีดวงอาจแตก ... บางคนไม่มีอาการคันพอทานไปก็เกิดอาการคัน


มันเหมือนจะดันกลับเข้าไปได้คะแต่ด้วยความกลัว ไม่เคย แล้วก็กลัวมันจะอักเสบหรือระบมยิ่งกว่าเดิม ก็เลยไม่ดันมันเข้าไป


ถ้าติ่งยังสามารถดันกลับเข้าไปได้ ต้องดันกลับเข้าไปนะคะ ไม่งั้นอีกหน่อยจะดันกลับลำบาก และจากระยะที่ 3 จะเข้าเป็นระยะที่ 4 ค่ะ



ระยะของโรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือ



ระยะที่ 1 -- มีอาการถ่ายเป็นเลือด (บางคนก็ไม่มีอาการนี้) แต่คลำที่ทวารหนักแล้วเจอก้อน แต่ไม่มีการยื่นออกมานอกขอบทวาร



ระยะที่ 2 -- ริดสีดวงยื่นออกมานอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระและเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนัก หลังถ่ายอุจจาระ



ระยะที่ 3 -- ริดสีดวงยื่นออกนอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก


ระยะที่ 4 – ริดสีดวงทวารยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลา



-----------------------------------------------


ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ



1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น



2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 



3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ



4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว



5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา



6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก



7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ



---------------------------------------------------



-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล …..



-- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด



-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน



-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....  ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายามอย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของหนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย



 



------------------------------------------------------



 


กชกร

ถ้ามันดันติ่งเข้าไปได้แล้วควรทำยังไงต่อค่ะเพราะอ่านดูที่บอกว่าให้ดันเข้าไป ก็เลยลองดันเข้าไปมันก็เข้าแล้วก็หายเจ็บควรรักษายังไงต่อไป

จนท



ถ้ามันดันติ่งเข้าไปได้แล้วควรทำยังไงต่อค่ะเพราะอ่านดูที่บอกว่าให้ดันเข้าไป ก็เลยลองดันเข้าไปมันก็เข้าแล้วก็หายเจ็บควรรักษายังไงต่อไป



กชกร เมื่อ 04/09/2013 - 22:40


ให้ทานต่อไปจนติ่งไม่ออกมาแล้วนะคะ เพราะถ้าแค่ยังดันเข้าไปได้มันอาจจะออกมาอีกก็ได้ ... ต้องแน่ใจว่าติ่งไม่ออกมาแล้วและให้ทานต่ออีก 2-3 เดือนค่ะ จะได้ไม่กลับมาเป็นๆหายๆ อีกค่ะ ....


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view