หงุดหงิดริดซี่จัง เป็นๆ หายจนเป็นอวัยวะที่ 33 [Engine by iGetWeb.com]

http://www.samunpaiphuluang.com

Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

Webboard

หงุดหงิดริดซี่จัง เป็นๆ หายจนเป็นอวัยวะที่ 33

(อ่าน 3341/ ตอบ 5)

หงุดหงิดอีกแล้วนะ	หัวข้อ :หงุดหงิดริดซี่จัง เป็นๆ หายจนเป็นอวัยวะที่ 33 28/11/2011 , 22:41 สวัสดีค่ะ รู้ตัวว่าเป็นริดสีอย่างจริงจังก็เกือบ 2 ปีค่ะ ตอนแรกเป็นด้านนอกและด้านใน ด้านนอกอักเสบเป็นเนื้อหงอนพอกินแสลงจะเจ็บอักแสบบวม (ตอนนี้รักษาหายแล้วแต่ก็เป็นติ่งเนื้ออยู่ด้านนอกข้างซ้ายไม่หดไม่เจ็บ) ด้านในเป็นเม็ดอักเสบประมาณ 2-3 เม็ด ไปหาหมอก็มีทั้ง ฉีด เหน็บ ทา ก็หาย ในช่วงแรก แต่จู่ๆ ตอนเป็นริดสีครั้งล่าสุดพอถ่ายอุจจาระพบว่ามีเนื้อยื่นออกมาจากข้างในแต่ไม่เจ็บนะสามารถดันกลับไปได้ ไปให้หมอรักษาก็หาย เมื่อรักษาฉีด เหน็บ ทา กิน ติ่งเนื้อก็หดหายกลับพอสักพัก ประมาณ 1-2 เดือนก็จะกลับมาเป็นอีก แล้วก็เป็นๆ หายๆ ตลอดเลย..สร้างกังวลใจตลอด จึงตัดสินใจหายามาทานเอง มีสมุนไพรภูหลวงนี่แหล่ะค่ะ ทานมา 3-4 เดือนน่าจะเริ่มประมาณ มิย.แล้ว ก็ยังเป็นๆ หายๆ อยู่คือ ติ่งยื่นจากข้างในเป็นครั้งคราวหลังจากถ่ายอุจจาระ แต่ไม่เจ็บดันกลับได้ จนเมื่อเดือน ตค.ที่ผ่านมา พี่แนะนำให้ทาน Siduol หลังอาหารทันที 2 มื้อเช้า-เย็น ซึ่งเคยทานยาแผนป้จจุบันมาบ้างอยู่แล้วเป็นยาตระกูล Daflon ควบคู่กับสมุนไพรภูหลวง ทาน Siduolควบคู่กับ สมุนไพรภูหลวง รู้สึกว่าไม่มีอะไรโผล่เลย กะเลิกกิน Siduol แล้วกิน สมุนไพรภูหลวง ต่ออีก 3 เดือนตามที่มีการแนะนำใน web จนสัปดาห์ที่ผ่านมามีติ่งผลุบโผล่ออกมา เริ่มหงุดหงิดตัวเองอีกแล้ว คำถาม 1. ได้มีการปรับวิธีการทานยาคือ เดิม 2 เม็ดก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง3 มื้อ (เช้า,เที่ยง และเย็น) เปลี่ยนเป็น ทาน 3 เม็ดก่อนอาหาร 1ชั่วโมง (เช้าและเย็น) เนื่องจากสะดวกต่อการทำงานค่ะ คำถาม:เท่ากับว่าเป็นการเริ่มต้นทานยาสมุนไพรภูหลวงอีกครั้งหรือไม่ 3.หากติ่งริดสีดวงหายไปสักระยะแล้วจู่ๆ ติ่งยื่นออกมาอีก คำถาม :เท่ากับว่าต้องเริ่มต้นในการทานยาสมุนไพรภูหลวงอีกหรือไม่ 4.คำถาม:กาารทานยาแผนปัจจุบันหลังอาหาร ควบคู่กับสมุนไพรภูหลวงที่ทานก่อนอาหาร มีผลต่อการรักษาริดสีดวงหรือไม่ค่ะ ต้องหยุดกินตัวใดตัวหนึ่งหรือไม่ 5.คำถาม:การทานสมุนไพรภูหลวงไม่ต่อเนื่องหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการทานยาทำให้ดื้อยาจนทำให้ต้องเพิ่มยาหรือไม่คะ 6.คำถาม :ถ้าหากทานสมุนไพรภูหลวง ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานประมาณ 1 ปี จะมีโทษต่อร่างกายหรือไม่คะเช่น สารตกค้างในร่างกาย 7.คำถามข้อสุดท้าย :เป็นคำถามที่ดูตลกแต่ซีเรียสค่ะ ติ่งเนื้อริดสีดวงที่หลุดออกมาจากด้านในยื่นโผล่มาให้เห็นด้านนอกนั้นถ้าไม่มีอาการเจ็บบวมใดๆ เลย หากเราไม่รักษาหรือไม่ดันกลับเข้าไปมันจะเกิดผลอะไรกับเราหรือเปล่า คือจะยาวขึ้นเรื่อยๆ หรือสามารถพัฒนาเป็นโรคร้ายได้หรือไม่คะ ถ้าไม่จะได้พยายามปลงๆ คิดว่าเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราสักที เพราะพอยื่นออกมาก็จะหงุดหงิด เกิดความไม่มั่นใจ และไม่สบายใจทุกครั้งไป PS. หากมีความสนใจที่จะสั่งสมุนไพรภูหลวงโดยตรงเป็นไปได้หรือไม่คะ แล้วถ้าได้ต้องสั่งขั้นต่ำเท่าไหร่ พอให้เบอร์ติดต่อได้หรือไม่ ขอบคุณมากค่ะ Tweet
เจ้าหน้าที่	ความคิดเห็นที่ 1 29/11/2011 , 16:30 1. ได้มีการปรับวิธีการทานยาคือ เดิม 2 เม็ดก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง3 มื้อ (เช้า,เที่ยง และเย็น) เปลี่ยนเป็น ทาน 3 เม็ดก่อนอาหาร 1ชั่วโมง (เช้าและเย็น) เนื่องจากสะดวกต่อการทำงานค่ะ คำถาม:เท่ากับว่าเป็นการเริ่มต้นทานยาสมุนไพรภูหลวงอีกครั้งหรือไม่ -- การทานยาแบ่งเป็น 3 เวลา จะดีกว่าการทานแค่ 2 เวลาค่ะ ... เพราะการทานแค่ 2 เวลา ช่วงระยะเวลากลางวันที่ไม่ได้ทานยาจะห่างนานมาก ... สำหรับคนที่ไม่สะดวกทานตอนกลางวันและจะทานยาแค่ 2 เวลา จะเหมาะสำหรับคนที่เป็นยังไม่มากค่ะ ... .. แต่ถ้าก่อนอาหารกลางวันไม่สะดวก ให้ทานเป็นหลังอาหารกลางวัน 2-3 ชั่วโมง และทานครั้งสุดท้ายเป็นก่อนนอนจะดีกว่าค่ะ .. 3.หากติ่งริดสีดวงหายไปสักระยะแล้วจู่ๆ ติ่งยื่นออกมาอีก คำถาม :เท่ากับว่าต้องเริ่มต้นในการทานยาสมุนไพรภูหลวงอีกหรือไม่ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุที่ติ่งเริ่มยื่นออกมาใหม่ ... 1.การทานอาหารแสลง ... 2. การขับถ่าย คือเบ่งถ่าย หรือมีการท้องเสีย ถ่ายเหลว ในช่วงเวลานี้ 3. อากัปกิริยา .. การนั่ง ยืน เดิน นานไป ... หรือการยกของหนัก ก้มยกของ การที่ร่างกายเริ่มรับยาแล้ว แต่อยู่ๆ มีสาเหตุอื่นๆทำให้อาการกำเริบ ... เช่น การทานอาหารแสลงโดยไม่รู้ตัว อาการแสลงอาหารพอเกิดขึ้น การรักษาอาจช้าลงบ้างเพราะไปช่วยบรรเทาการอักเสบด้วย แทนที่จะรักษาเรื่องริดสีดวงอย่างเดียวอย่างเดียว และส่วนมากอาการแสลงจะดีขึ้นภายใน 10 วัน .... แต่การที่เราไม่รู้ตัวและทานเรื่อยๆ ก็เหมือนกับการรักษาไม่ต่อเนื่องค่ะ 4.คำถาม:กาารทานยาแผนปัจจุบันหลังอาหาร ควบคู่กับสมุนไพรภูหลวงที่ทานก่อนอาหาร มีผลต่อการรักษาริดสีดวงหรือไม่ค่ะ ต้องหยุดกินตัวใดตัวหนึ่งหรือไม่ ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับ ห้ามทานยาสมุนไพรตัวอื่นพร้อมกันนะคะ .. ยาจะตีกันค่ะ สรรพคุณการรักษาจะเปลี่ยนไปค่ะ ...แต่ทานควบคู่กับยาแผนปัจจุบันได้ค่ะ 5.คำถาม:การทานสมุนไพรภูหลวงไม่ต่อเนื่องหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการทานยาทำให้ดื้อยาจนทำให้ต้องเพิ่มยาหรือไม่คะ ไม่มีการดื้อยาค่ะ เพราะ ไม่ใช่ยาปฎิชีวนะ …. แต่การทานไม่ต่อเนื่องเหมือนกับการรักษาไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากยาของทางบริษัทผลิตจากสมุนไพรไทย-จีน 100 % ไม่มีส่วนประกอบของยาปฏิชีวนะ ดังนั้นการรักษาโดยใช้สมุนไพรจะเน้นการรักษาที่ต่อเนื่อง ไม่เหมือนยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ไวแต่แค่ชั่วคราว เช่น เมื่อเราปวดหัวเราก็ทานพารา แค่เม็ดเดียวเราก็เลิกทานได้ แต่พอเราเริ่มปวดหัวใหม่ เราก็ค่อยกินใหม่ ... และการดื้อยาส่วนมากจะเกิดกับยาปฎิชีวนะ เช่น ยาแก้อักเสบ ถ้าเรากินไม่ครบวัน ก็อาจทำให้เราดื้อกับยาตัวนี้ พอนานๆเข้า ก็ต้องเปลี่ยนยาที่แรงขึ้น 6.คำถาม :ถ้าหากทานสมุนไพรภูหลวง ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานประมาณ 1 ปี จะมีโทษต่อร่างกายหรือไม่คะเช่น สารตกค้างในร่างกาย ไม่มีค่ะ ... คนที่เป็นหนักมากๆ และทานยานาน เคยไปตรวจร่างเจาะเลือด ก็ไม่พบสารตกค้างนะคะ 7.คำถามข้อสุดท้าย :เป็นคำถามที่ดูตลกแต่ซีเรียสค่ะ ติ่งเนื้อริดสีดวงที่หลุดออกมาจากด้านในยื่นโผล่มาให้เห็นด้านนอกนั้นถ้าไม่ มีอาการเจ็บบวมใดๆ เลย หากเราไม่รักษาหรือไม่ดันกลับเข้าไปมันจะเกิดผลอะไรกับเราหรือเปล่า คือจะยาวขึ้นเรื่อยๆ หรือสามารถพัฒนาเป็นโรคร้ายได้หรือไม่คะ ถ้าไม่จะได้พยายามปลงๆ คิดว่าเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราสักที เพราะพอยื่นออกมาก็จะหงุดหงิด เกิดความไม่มั่นใจ และไม่สบายใจทุกครั้งไป ถ้าหัวติ่งนั้นยังสามารถดันกลับเข้าไปได้ น่าจะดันกลับเข้าไปก่อนนะคะ ไม่งั้นโอกาสที่จะออกมาอยู่ข้างนอกถาวรเลยก็จะมีมาก.. โรคนี้จะก่อให้เกิดความรำคาญเท่านั้น ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงค่ะ ... PS. หากมีความสนใจที่จะสั่งสมุนไพรภูหลวงโดยตรงเป็นไปได้หรือไม่คะ แล้วถ้าได้ต้องสั่งขั้นต่ำเท่าไหร่ พอให้เบอร์ติดต่อได้หรือไม่ ทางบริษัทไม่ได้จำหน่ายตรงค่ะ ... สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยานะคะ .. ............................................. *** แต่คุณเป็นหลายหัวมากเลย .. คิดว่าก่อนที่จะรู้ใน 2 ปีนี้ว่าเป็น น่าจะเป็นภายในมานานอีกหลายปี ** ต้องดูก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้เราเป็นริดสีดวงเกิดจากอะไร ... และแก้จากจุดนั้น การรักษาก็จะยิ่งไวค่ะ ... เราต้องดูแลตัวเองด้วย ยังไงดูแลตัวเองด้วยนะคะ .. จะได้หายไวๆ ... 1. การทานอาหารแสลง ... ถ้ามีอาหารที่เรารู้ว่าแสลงกับอาการริดสีดวงของเราก็ต้องงดก่อนนะคะ เพราะถ้าไปทานเดี๋ยวเกิดอาการอักเสบขึ้นมาอีก หรือ พอติ่งเริ่มหดแล้ว ก็จะออกมาอีก ... ช่วงนี้ลองงดอาหารแสลง ... ริดสีดวง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง ข้าวเหนียว หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง ..หรืออหารตัวอื่นที่เราคิดว่าแสลง .. ถ้าทานอาหารพวกนี้อยู่รบกวนงดอาหารพวกนี้ก่อนนะคะ เพราะอาการริดสีดวงอาจจะแสลงกับอาหารตัวใดตัวหนึ่ง 2. อากัปกิริยา ... นั่ง ยืน เดิน การก้มยกของหนัก .. นานเกินไป การที่เรานั่งเป็นเวลานานๆ ก็ทำให้เกิดการกดทับบริเวณติ่ง .. ต้องมีการลุกยืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ .. การยืนนานๆ ก็จะเกิดการเกร็ง .. ส่วนการเดินนานๆ ก็จะเกิดการเสียดสีตลอดเวลาค่ะ... 3. ห้ามออกกำลังกายหักโหม โดยเฉพาะการวิ่ง หรือเดิน นานๆ... เนื่องจากติ่ง/หัว ริดสีดวง อาจเกิดการเสียดสี .. ทำให้อักเสบมากขึ้น .. 4. นิสัยการขับถ่าย .. ถ้ามีอาการท้องผูกเป็นประจำ ต้องดูแลตัวเองด้วย ไม่งั้นจะหายช้า และพอจะหาย พอเราเริ่ม เบ่งถ่าย ก็จะเกิดการอักเสบอีก.. ลองทานอาหารที่มีกากใยมากๆนะคะ และดื่มน้ำมากๆด้วย จะช่วยเรื่องท้องผูกค่ะ.. การนั่งขับถ่ายนานๆไม่ดีนะคะ เพราะจะทำให้ติ่งออกมาอีกได้ง่ายขึ้นค่ะ ... หรือถ้ามีการถ่ายเหลวหรือท้องเสียบ่อย... ต้องรีบดูแลตัวเองเลย เพราะบางรายเวลากำเริบหนักกว่าท้องผูกอีก และรักษายากกว่า .. 5. ถ้ามีเวลาอยากให้นั่งแช่น้ำอุ่นบ้าง เลือดบริเวณที่คั่งอยู่จะได้คลายบ้าง... เลือดจะได้ไหลเวียนได้สะดวก เวลานั่งนะคะ .. อยากให้นั่งลงไปเลยหรือนั่งบนห่วงยางนั่งอ่านหนังสือ หรือดูหนังก็ได้ ประมาณ 10 นาที ... แต่ห้ามนั่งยองๆนะคะ เดี๋ยวติ่งริดสีดวงจะยิ่งออกมา ... ------------------------------------------------------ สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ
เจ้าหน้าที่	ความคิดเห็นที่ 2 29/11/2011 , 16:34 ด้านนอกอักเสบเป็นเนื้อหงอนพอกินแสลงจะเจ็บอักแสบบวม (ตอนนี้รักษาหายแล้วแต่ก็เป็นติ่งเนื้ออยู่ด้านนอกข้างซ้ายไม่หดไม่เจ็บ) เห็นบอกมีติ่งอยู่ข้างนอกข้างซ้ายไม่หดกลับ ไม่ทราบว่าเคยไปตรวจมั้ยคะว่าเป็นติ่งจากริดสีดวงหรือติ่งเนื้อธรรมดา ถ้ากรณีที่ขึ้นรอบทวาร .... ติ่งที่บอกมาจะไม่สรุปได้ 100 % ว่าใช่หรือไม่ เพราะเป็นไปได้ที่ ติ่งเกิดจากการเป็นริดสีดวง หรือ ติ่งเป็นเนื้อปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นบริเวณไหนก็ได้ตามร่างกาย ถ้าเป็นติ่งเนื้อธรรมดา ผ่าตัดก็หาย แต่ถ้าเป็นติ่งจากริดสีดวงทวาร ลองงดอาหารแสลงเหมือนกัน แล้วดูว่าจะดีขึ้นมั้ย / นั่งแช่น้ำอุ่น และอากัปกิริยา เดิน นั่ง ยืน วิ่ง ไม่ควรนาน .. ห้ามยกของหนัก ปกติแล้วคนที่เป็นริดสีดวง บางคนมีอาการถ่ายเป็นเลือด บางคนก็ไม่มี --- บางคนมีอาการคันร่วมด้วย บางคนก็ไม่มี – บางคนมีอาการเจ็บ บางคนก็ไม่มี สาเหตุที่แต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกันเนื่องจากต้องดูด้วยว่าเส้นเลือดดำที่โป่งพอง หรือ อักเสบ ภายในทวารหนัก เกิดขึ้นบริเวณไหน ถ้าเกิดบริเวณที่เวลาถ่ายอุจจาระ แล้วไปโดน เสียดสีกับเส้นเลือดดำที่อักเสบหรือโป่งพองอยู่ เวลาถ่าย ก็จะเจ็บ แสบ และ มีโอกาสมีเลือดปะปนออกมา แต่ถ้าจุดที่เกิดหัว หรือเส้นเลือดที่อักเสบ ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งที่อุจจาระไปโดน อาการถ่ายเป็นเลือด เจ็บ แสบ – บางคนก็ไม่มีอาการคะ
หงุดหงิดอีกแล้วนะ	ความคิดเห็นที่ 3 29/11/2011 , 21:38 แขอบคุณทางสมุนไพรภูหลวงมากค่ะที่เข้ามาตอบคำถามให้หายสงสัย จะมีในส่วนทีมีการถามกลับมานั้นเรื่องที่อาจเป็นมาก่อน 2 ปีก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช่หรือเปล่า ซึ่งเคยมีอาการการเบ่งแล้วเป็นเลือดออกมาก่อนหน้าที่จะรู้ว่าเป็นริดสีดวงแน่ๆ ก็ปีกว่าค่ะ แต่ตอนนู้นไม่ทราบว่าเป็นอะไรกันแน่ไม่ได้ไปหาหมอแต่หายาริดสีดวงมารับประทานเองแล้วหาย แต่ที่รู้ว่าเป็นริดสีดวงหลายหัวด้านในเนื่องจากมีอาการเจ็บบวมจากด้านนอกจึงไปหาหมอ และหมอทำการตรวจเช็คให้ค่ะ ส่วนด้านนอกที่บอกว่าเป็นติ่งจริงๆ มันจะเป็นเนื้อนูนๆ ไม่ใหญ่มากอยู่ตรงด้านนอกฝั่งซ้าย เท่าที่ถามหมอ หมอบอกว่าคล้ายเป็นผลข้างเคียงของการเป็นริดสีดวงตรงขอบๆ ใกล้ปากทวารค่ะ มันจะไม่ยุบเเล้ว ถ้ารำคาญหรือต้องการความสวยงาม สามารถจี้หรือผ่าออกได้ ซึ่งหมอบอกว่า บางคนเป็นรอบทวารด้านนอกเป็นหงอน ดอกๆ ก็ไม่มีการผ่าออก ก็เลยไม่ผ่าออกด้วยค่ะ คำแนะนำที่ให้มาตั้งแต่การทานยา พฤติกรรมการเคลื่อนไหว จะทำตามคำแนะนำส่วนการทานอาหารจะสังเกตตัวเองอีกครั้งค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

Page : 1

แสดงความคิดเห็น



รูปภาพ
	(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ	รหัสผ่าน : (ในกรณีที่เป็นสมาชิก)
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน
หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา

อนุรักษ์สมุนไพรไทย ร่วมใส่ใจสุขภาพ กับยาสมุนไพรภูหลวง

.