http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

รบกวนสอบถามค่ะ

(อ่าน 1532/ ตอบ 2)

ดาว

3-4 วันที่ผ่านมาถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง พอถ่ายออกมาก็ปกติแต่พอฉีดน้ำล้างมีเลือดออกมานิดหน่อย แล้วก้ไม่มีเลยถึงแม้จะถ่ายก็ต่อตามค่ะ จะมีเลือดออกทุกครั้งที่ถ่าย วันแรกรู้สึกเบ่งก่อนถ่ายนิดนึง ต่อๆมาไม่เบ่ง แต่วันที่ 3 เริ่มเจ็บตรงรูทวารเล็กน้อยค่ะ วันที่ 4 จับๆดูรู้สึกเหมือนมีติ่งออกมา (มีการเบ่งเล็กน้อย) จำได้ว่ามีมานานมากแล้วค่ะ แต่ไม่โผล่ออกมา ไม่เจ็บปวด พอครั้งนี้ตอนถ่ายเรียบร้อยลองจับดูโผล่ออกมาสักนิด แต่ติ่งผลุบเข้าเองได้นะค่ะ ลองถ่ายรูปเพื่อเช็คดูเป็นสีเนื้อปกติค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นโรคริดสีดวงหรือไม่ค่ะ ว่าจะไปพบแพทย์แต่ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ รบกวนช่วยตอบให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

เจ้าหน้าที่


ถ้าออกมาจาทางรูทวารหนัก... และหดกลับเข้าไปได้ ก็น่าจะเป็นริดสีดวงค่ะ....


ปกติแล้วอาการถ่ายเป็นเลือดกรณีที่เป็นริดสีดวง



  • บางคนก็มีเลือดปะปนมากับอุจจาระ

  • บางคนก็มีติดออกมากับกระดาษทิชชูตอนทำความสะอาด

  • บางคนก็หยดออกมาหลังจากที่อุจจาระเสร็จ


ระยะของโรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือ


ระยะที่ 1 -- มีอาการถ่ายเป็นเลือด (บางคนก็ไม่มีอาการนี้) แต่คลำที่ทวารหนักแล้วเจอก้อน แต่ไม่มีการยื่นออกมานอกขอบทวาร


ระยะที่ 2 -- ริดสีดวงยื่นออกมานอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระและเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนัก หลังถ่ายอุจจาระ


ระยะที่ 3 -- ริดสีดวงยื่นออกนอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก


ระยะที่ 4 – ริดสีดวงทวารยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลา


----------------------------------------------



ลองทานยาเราดูก่อนมั้ยคะ ... เนื่องจากยาของทางบริษัทเป็นยาสมุนไพร ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ เหมือนยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด ที่จะเห็นผลทันที หรือภายใน 1-2 วัน ... ตามที่เคยแจ้งกับทุกคนนะคะ ถ้ากรณีที่ถ่ายเป็นเลือด ภายใน 15 วัน อาการถ่ายเป็นเลือดจะหาย ยกเว้นกรณีมากจริงๆ แบบบางคนที่ต้องเอาแผ่นผ้าอนามัยมารองแบบออกมาทั้งวัน ...อาการนี้ ภายใน 15 วันจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด....



หลังจากเลือดหยุดแล้ว ให้ทานต่ออีกเพื่อรักษาติ่ง/หัวริดสีดวง ติ่งและหัวของริดสีดวงจะค่อยๆฝ่อไปค่ะ....  และควรที่จะงดทานอาหารที่มีโอกาสแสลง เพื่อให้หายเร็วยิ่งขึ้น 


อาหารแสลงส่วนมาก ที่พบในผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว ถ้าทานอาหารพวกนี้อยู่รบกวนงดอาหารพวกนี้ก่อนนะคะ เพราะอาการริดสีดวงอาจจะแสลงกับอาหารตัวใดตัวหนึ่ง  และ พยายามดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสียนะคะ เพราะจะทำให้ริดสีดวงหายช้า ... พยายามรักษาธาตุให้เป็นปกติดีที่สุดค่ะ .... เพราะถ้าเรายังทานอาหารแสลง อาการแสลงอาหารจะหายไปเองหรือบรรเทาไปภายในไม่เกิน 10 วัน แต่ 10 วันนี้ทานยาไปก็ช่วยบรรเทา ....


------------------------------------------------------



กรณีมีหัวและมีติ่งแล้ว เราไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนให้นะคะ เพราะการรับยาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ขอให้ทานยาได้วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง ... กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะคะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ...


------------------------------------------------------


เรื่องการทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ...


ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่รับรองคะว่าหายแน่คะ ปัจจัยที่ว่านะคะ


1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น


2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 


3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ


4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว


5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา


6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก


7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ


------------------------------------------------------



-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล …..


-- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด


-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....  ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายามอย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของหนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย


------------------------------------------------------


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view