http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

ปรึกษาหน่อยครับ !!

(อ่าน 1683/ ตอบ 1)

เด็กน้อย

   คือ ตอนนี้เป็นริดสีดวงครับ เป็นมานานแล้ว 5 ปีได้โดยไม่เคยกินยาหรือรักษาใดๆครับ แต่อาการตอนนี้กลุ้มมากครับ...
   มีติ่งเนื้อยื่นออกมาแถวๆปากทวารครับ ไม่รู้สึกเจ็บอะไร ติ่งยื่นออกมาข้างนอกตลอดเวลา เหตุที่มันไม่เจ็บและไม่รู้สึกอะไรนี่แหละครับผมเลยชะล่าใจคิดว่าไม่เป็นอะไร ก็ปล่อยไป ไม่กล้าไปหาหมอด้วยครับ อาย+แพงอีก
   แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันมีตึ่งเนื้อเพิ่มขึ้นครับ มีติ่งเล็ก ติ่งน้อยขึ้นตามรอบๆทวารเยอะเลยครับ แต่ไม่มีอาการเจ็บใดๆนะครับ เครียดมาก
   อยากทราบว่ายาสมุนไพรภูหลวง เมื่อทานแล้วจะสามารถทำให้ติ่งเนื้อพวกนี้หายไปได้ไหมครับ คือ ผมเข้าใจว่ายาจะทำให้หายหรือว่าจะช่วยแค่บรรเทาอะครับ เพราะผมหาดูหลายตัวยาอยู่ส่วนมากเจอแต่ยาช่วยถ่ายอะไรแบบนี้ครับ
   ซึ่งตัวผมเองไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายเลยครับ ถ่ายทุกวันปกติครับ

ภูหลวง


ปกติแล้วคนที่เป็นริดสีดวง บางคนมีอาการถ่ายเป็นเลือด  บางคนก็ไม่มี --- บางคนมีอาการคันร่วมด้วย บางคนก็ไม่มี บางคนมีอาการเจ็บ บางคนก็ไม่มี    สาเหตุที่แต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกันเนื่องจากต้องดูด้วยว่าเส้นเลือดดำที่โป่งพอง หรือ อักเสบ ภายในทวารหนัก เกิดขึ้นบริเวณไหน ถ้าเกิดบริเวณที่เวลาถ่ายอุจจาระ แล้วไปโดน เสียดสีกับเส้นเลือดดำที่อักเสบหรือโป่งพองอยู่ เวลาถ่าย ก็จะเจ็บ แสบ และ มีโอกาสมีเลือดปะปนออกมา แต่ถ้าจุดที่เกิดหัว หรือเส้นเลือดที่อักเสบ ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งที่อุจจาระไปโดน อาการถ่ายเป็นเลือด เจ็บ แสบ บางคนก็ไม่มีอาการคะ


------------------------------------------------------


ปกติริดสีดวงถ้าไม่รักษา และมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ติ่งก็อาจจะมีขนาดเพิ่มขึ้นได้รวดเร็ว .. แต่กรณีของคุณไม่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย คือถ่ายปกติ  ... ดังนั้นอาการริดสีดวงเป็นมากขึ้นก็น่าจะเกี่ยวกับการทานอาหารแสลง


 


ขอแนะนำเรื่องการแพ้อาหาร กับ อาหารแสลง หน่อยนะคะ เพราะหลายคนเข้าใจผิด จะบอกแต่ตัวเองไม่แพ้แต่บ้างครั้งไม่ทราบเรื่องความแตกต่าง
การแพ้อาหาร คือ การที่เราทานอะไรลงไปแล้วจะเกิดผื่นตามตัว เป็นจุด ผด หรือคันตามตัว คันบริเวณริมฝีปาก หอบ หายใจไม่ออก ....
แต่ อาหารแสลง คือ ... อาหารที่เราทานไปแล้วแสลงกับโรคที่เราเป็นอยู่ แต่หลายคนจะไม่รู้ อย่างเช่น เราชอบกินส้มตำปูเค็ม ... บางคนกินปูเค็มแล้วก็เห็นว่าไม่แพ้ ก็กินต่อไป แต่ไม่รู้ว่ามันแสลงกับหัวริดสีดวงของเรา คือสังเกตุได้จากเป็นมากขึ้น ... เช่น คนเคยถ่ายเป็นเลือด ตอนไม่ได้ทานก็ดีขึ้น พอทานเข้าไปก็มีอาการถ่ายเป็นเลือดออกมาอีก ... หรือคนที่ติ่งเริ่มยุบ พอทานเข้าไป ก็กลับขึ้นมาอีกหรือ ถ้าหนักหน่อยหัวริดสีดวงอาจแตก ... บางคนไม่มีอาการคันพอทานไปก็เกิดอาการคัน

อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ...
-------------------------------------------------------------


ความแตกต่างระหว่ายาของทางบริษัทกับยาสมุนไพรในท้องตลาด ... ส่วนมากยาในท้องตลาดจะเป็นสมุนไพรเดี่ยว คือจะเป็น ยาสมุนไพรอัคคีทวาร ยาสมุนไพรเพชรสังฆาต   แต่ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัวที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยตรง ไม่ใช่สมุนไพรเดี่ยว คือเป็นเพชรสังฆาต อย่างเดียวคะ .. ตัวยาเพชรสังฆาตเป็นแค่ส่วนประกอบตัวหนึ่งในยาของเราคะ ยังมีสมุนไพรอื่นร่วมด้วยคะที่ไปช่วยเรื่องรักษาอาการอักเสบ บริเวณภายในทวารหนักคะ


 


ระยะของโรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือ


ระยะที่ 1 -- มีอาการถ่ายเป็นเลือด (บางคนก็ไม่มีอาการนี้) แต่คลำที่ทวารหนักแล้วเจอก้อน แต่ไม่มีการยื่นออกมานอกขอบทวาร


ระยะที่ 2 -- ริดสีดวงยื่นออกมานอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระและเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนัก หลังถ่ายอุจจาระ


ระยะที่ 3 -- ริดสีดวงยื่นออกนอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก


ระยะที่ 4 – ริดสีดวงทวารยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลา


 


ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัวที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยตรง  ซึ่งสามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะที่ 1-4  ... ถึงแม้ต้องทานนานกว่ายาแผนปัจจุบัน แต่ยาเรารักษาที่ต้นเหตุ และก็มีหลายคนที่หายแล้ว .. ยาของเราพอกินไปเรื่อยๆหัวริดสีดวงจะค่อยๆฝ่อลง หลังจากที่หัวริดสีดวงฝ่อลงไปเป็นเนื้อเดียวกับทวารแล้ว ก็ทานต่ออีก 3 เดือนนะคะ เพื่อไปรักษาบริเวณเส้นเลือดดำบริเวณทวารหนักที่อักเสบให้หายสนิท ..



---------------------------------------------------------------


กรณีที่ถ่ายเป็นเลือด ภายใน 15 วันเรากล้ารับรองค่ะว่าอาการถ่ายเป็นเลือดจะหาย ยกเว้นกรณีมากจริงๆ แบบบางคนที่ต้องเอาแผ่นผ้าอนามันมารองแบบออกมาทั้งวัน ...อาการนี้ ภายใน 15 วันจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


แต่ถ้ากรณีมีหัวและมีติ่งแล้ว เราไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนให้นะคะ เพราะการรับยาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ขอให้ทานยาได้วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง ... กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะคะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ...


------------------------------------------------------


เรื่องการทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ...


ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่รับรองคะว่าหายแน่คะ ปัจจัยที่ว่านะคะ


1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น


2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 


3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ


4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว


5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา


6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก


7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ


---------------------------------------------------


ดูแลตัวเองด้วยจะได้หายไวๆ ...


 


เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....  ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายามอย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...


------------------------------------------------------


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view