ทานยาแล้วต้องใช้เวลานะคะ จะไม่ได้หายปุ๊ปปั๊ปค่ะ .. 

ช่วงที่อักเสบให้ปรับการทานยาด้วยนะคะ 

ช่วงที่เจ็บ/ อักเสบ / หรือมีเลือด .... ให้ทานยาเป็นครั้งละ 3 แคปซูลเลยนะคะ วันละ 3 เวลาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง .. ยาไม่กัดกระเพาะนะคะ ไม่ได้ทานอาหารก็สามารถทานยาได้ค่ะ .. และถ้ามื้อไหนลืมทานยาทานเป็นก่อนนอนแทนก็ได้นะคะ .. ควรทานยาให้ครบ 3 เวลา เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องค่ะ

พอหายเจ็บค่อยลดเหลือครั้งละ 2 แคปซูลนะคะ แต่ยังคง 3 เวลานะคะ

--------------------------------------

ที่เจ็บอาจเพราะ ...

1. หัวริดสีดวงเพิ่งเริ่มดันออกมาจะเจ็บมาก

2. เป็นอยู่แล้ว ...ไปทานอาหารแสลงเลยอักเสบ

3. เบ่งแรงเกินไป อุจจาระแข็งเลยครูดถูกเส้นเลือดที่เป็นริดสีดวง

4. ท้องเสีย ถ่ายเหลว การทานยาระบาย ทำให้เส้นเลือดอักเสบ

ทานยาแล้วต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ 

-----------------------------------

ช่วงที่เป็นริดสีดวง งด อาหารรสเผ็ด + เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยนะคะ เพราะทั้ง 2 อย่าง  จะกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตทำให้เส้นเลือดมีความร้อนสะสมมาก สุดท้ายเส้นเลือดอาจอักเสบ แตก และริดสีดวงกำเริบค่ะ

พยายามดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูก + ท้องเสียนะคะ รักษาธาตุให้เป็นปกติดีที่สุดค่ะ..และ  หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีส่วนผสมของยาระบาย เพราะจะทำให้ริดสีดวงเป็นๆหายๆ (การทานยาระบายเป็นประจำเป็นสาเหตุของริดสีดวง ถ้าเรากินต่อเนื่องนอกจากทำให้ติดยาระบายแล้ว จะทำให้ริดสีดวงเป็นๆหายๆ บางคนนานๆไปหัวริดสีดวงจะใหญ่ขึ้น หรือ มีมากขึ้น)

เรื่องอาหารแสลงนะคะ .........

อาหารแสลงของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ .. อาหารแสลงคือ อาหารที่เราทานเข้าไปแล้วเกิดอาการกับริดสีดวง เช่น พอทานไปแล้วเกิดอาการเจ็บ คัน บวมแดง อักเสบ หรือมีเลือดออกมา (อาการใดอาการหนึ่ง) ... เราทานอะไรไปแล้วมีอาการแบบนี้ก็งดอาหารตัวนั้นนะคะ

บางคนทานอาหารได้ทุกอย่างไม่แสลงเลยก็มีนะคะ ... บางคนแสลงกับอาหารมากกว่า 1 อย่างค่ะ .. ต้องสังเกตตัวเองด้วยนะคะ

คือถ้าเราทานอะไรแล้วภายใน 24 ชม ... เกิดอาการกับริดสีดวง เช่น พอทานไปแล้วเกิดอาการเจ็บ คัน บวมแดง อักเสบ หรือมีเลือดออกมา (อาการใดอาการหนึ่ง) ... เราก็งดอาหารนั้นนะคะ

ทานยาแล้วดูแลตัวเองด้วยนะคะจะได้หายไวๆค่ะ

ปรึกษา – สอบถามได้ตลอดนะคะ

ยาเหน็บจริงๆถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องใช้ก็ได้นะคะ .. แต่ถ้าใช้เค้าจะมีโดสการใช้ อย่าใช้เยอะไปค่ะ ไม่ดีค่ะ ..