http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

สอบถามคะตอบด่วนนะคะ

(อ่าน 1113/ ตอบ 1)

เฮง

ตอนนี้เป็นแผลแริที่ทวารแบะมีติ่งยาวๆออกมาคะซื้อยามาแล้วต้องทานและปฏิบัคิตัวอย่างไรบ้างแบะต้องทานยานานเท่สไรคะ


จนท

คน ที่เป็นริดสีดวงถึงขั้นมีติ่ง ... ต้องเป็นจากภายในมาก่อน แต่เราไม่รู้ตัว... แล้วติ่งนั้นที่อยู่ภายในจะค่อยๆดันออกมาข้างนอกค่ะ ถ้ากรณีที่ดันออกมาข้างนอกแล้ว ระยะการเป็นริดสีดวงที่อยู่ภายในไม่น่าต่ำกว่า 5 ปีค่ะ



วิธีรับประทานยา..... ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงคะ (ควรทานยาก่อนอาหารเพราะร่างกายจะได้นำยาไปใช้ได้เต็มที่คะ ถ้าทานพร้อมมื้ออาหารประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปด้วย)  ... และควรทานยาต่อเนื่องนะคะ ไม่ควรทานๆหยุดๆคะ ... เพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง 



ถ้าเจ็บจนทนไม่ไหว ถ้าไม่แพ้ยาแก้อักเสบนะคะ ให้ไปซื้อยาแก้อักเสบ มา 1 แผง ที่ร้านขายยา  และ ทานยาตามนี้นะคะ


ตอนเช้า ก่อนอาหาร 1 ขั่วโมง ---   ยาแก้อักเสบ 1 แคปซูล + ยาบริษัท 2 แคปซูล
ตอนกลางวัน ก่อนอาหาร 1 ขั่วโมง ---   ยาบริษัท 2 แคปซูล
ตอนเย็น ก่อนอาหาร 1 ขั่วโมง ---   ยาแก้อักเสบ 1 แคปซูล + ยาบริษัท 2 แคปซูล




----------------------------------------------------
ช่วงที่ทานยาลองงด .. อาหารแสลง และอาหารที่ระคายเคืองลำไส้ด้วยนะคะ ...



เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว เนื้อวัว --- ควรจะงดนะคะเพราะเป็นเพราะถ้าทานแล้วจะระคายเคืองลำไส้ค่ะ  ...ต้องงดนะคะ ... ---





อาหารแสลงส่วนมาก ที่พบในผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว ถ้าทานอาหารพวกนี้อยู่รบกวนงดอาหารพวกนี้ก่อนนะคะ เพราะอาการริดสีดวงอาจจะแสลงกับอาหารตัวใดตัวหนึ่ง  และ พยายามดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสียนะคะ เพราะจะทำให้ริดสีดวงหายช้า ... พยายามรักษาธาตุให้เป็นปกติดีที่สุดค่ะ .... เพราะถ้าเรายังทานอาหารแสลง อาการแสลงอาหารจะหายไปเองหรือบรรเทาไปภายในไม่เกิน 10 วัน แต่ 10 วันนี้ทานยาไปก็ช่วยบรรเทา ....


 


ถ้ามีอาการ .... ท้อง ผูกมาก .... ลองดื่มน้ำมากขึ้นนะคะ ถ้าตอนขับถ่ายหัวอุจจาระแข็งแล้วพอหัวอุจจาระออกมาแล้ว อุจจาระค่อยๆนิ่มขึ้น หมายถึงเราดื่มน้ำไม่พอ พอร่างกายต้องการใช้น้ำก็จะดึงตามส่วนต่างๆไป โดยเฉพาะปลายลำไส้ใหญ่ค่ะ ทำให้หัวอุจจาระแข็งเราเลยต้องออกแรงเบ่งค่ะ ...



----------------------------------------------------------------------




กรณีที่ถ่ายเป็นเลือด ภายใน 15 วัน...อาการถ่ายเป็นเลือดจะหาย ยกเว้นกรณีมากจริงๆ แบบบางคนที่ต้องเอาแผ่นผ้าอนามัยมันมารองแบบออกมาทั้งวัน ...อาการนี้ ภายใน 15 วันจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


 


แต่ถ้ากรณีมีหัวและมีติ่งแล้ว เราไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนให้นะคะ เพราะการรับยาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ขอให้ทานยาได้วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง ... กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะ คะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ...


------------------------------------------------------


เรื่อง การทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ...


ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ


1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น


2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 


3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บาง คนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึก ว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ


4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว


5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลาย ติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา


6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก


7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจ จะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ


---------------------------------------------------

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ยาไม่กัดกระเพาะนะคะ ไม่ได้ทานอาหารก็สามารถทานยาได้ค่ะ ... ถ้ามื้อไหนลืมทานยาให้มาเพิ่มการทานยาเป็นก่อนนอนแทนนะคะ ...
-- ดูแลตัวเอง
อย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด (ไม่แนะนำให้ทานยาถ่ายหรือยาระบายจนกระทั่งถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำนะคะ)
-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ..
. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน
-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....
  ถ้า ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาเร็วขึ้นและใหญ่ขึ้น


 


--------------------------------------------


 


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view