เป็นริดสีดวงทวารมาเป็น 10 ปีแล้วติ่งเนื้อสามารถยุบหาบไปได้ไหมคะ
อร |
เป็นริดสีดวงทวารมาเป็น 10 ปีแล้วติ่งเนื้อสามารถยุบหาบไปได้ไหมคะ ติ่งเนื้อนิ่ม ๆ ค่ะ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว ไม่มีอาการใดๆ แล้ว ไม่มีเลือดออก ไม่บวม แค่เวลาจับก็รู้สึกรำคาญนะคะมีติ่งยื่นออกมาประมาณ 2cm คะ สามาถที่จะยุบฟ่อหายไปได้ไหมคะ และน่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ รบกวนหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ |
จนท |
ถ้าติ่งที่บอกมาที่อยู่รอบทวารจะไม่สามารถสรุปได้ 100 % ว่าใช่ติ่งที่เกิดจากการเป็นริดสีดวงทวารหรือไม่ เพราะเป็นไปได้ที่ ติ่งเกิดจากการเป็นริดสีดวง หรือ ติ่งเป็นเนื้อปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นบริเวณไหนก็ได้ตามร่างกาย ถ้าเป็นติ่งเนื้อธรรมดา ผ่าตัดก็หาย แต่ถ้าเป็นติ่งจากริดสีดวงทวารแบบ 100 % คือ ติ่ง/หัว ออกมาจากทวารหนัก ถ้ากรณีที่ติ่งที่อยู่รอบทวารหนัก อาจเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ .. ลอง ทานยาดูก่อนก็ได้นะคะ เพราะถ้าเป็นติ่งที่เกิดจากการเป็นริดสีดวงทวาร ภายในเดือน 2 เข้าเดือน 3 จะเริ่มฝ่อและมีขนาดเล็กลง ... ยาของทางบริษัทผลิตจากสมุนไพร 100 % ไม่มีอันตราย สามารทานได้เพื่อป้องกันด้วย บางคนไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวงภายในหรือเปล่าแต่กลัวเป็นเค้าก็ทานค่ะ …. --------------------------------------- ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัวที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยตรง ไม่ใช่สมุนไพรเดี่ยว คือเป็นเพชรสังฆาต อย่างเดียวคะ .. ตัวยาเพชรสังฆาตเป็นแค่ส่วนประกอบตัวหนึ่งในยาของเราคะ ยังมีสมุนไพรอื่นร่วมด้วยคะที่ไปช่วยเรื่องรักษาอาการอักเสบ บริเวณภายในทวารหนักคะ เรื่องการทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ... ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ … 1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 % แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น 2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น ..... บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ... ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ 4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว 5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา 6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก 7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ --------------------------------------------------- -- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล ….. -- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด -- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน -- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ .... ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ... พยายามอย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของหนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย
-------------------------------------------- โดยส่วนมากแล้ว 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ
สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ |
Jeab |
ผมทานแล้วทำใหท้องเสียครับ อยากถ่ายบ่อยๆ และมวนท้องครับ ต้องแก้ไขอย่างไรดี |
จนท |
ผมทานแล้วทำใหท้องเสียครับ อยากถ่ายบ่อยๆ และมวนท้องครับ ต้องแก้ไขอย่างไรดี Jeab เมื่อ 10/12/2013 - 01:10 ยาไม่มีตัวระบายนะคะ แค่ช่วยให้อุจจาระอ่่อนนุ่มลง .... ลองทานยาแก้ท้องเสียดูก่อนนะคะ ... และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เครื่องดื่มแอลกอออล์ เนื้อวัว ... อาหารพวกนี้ระคายเคืองลำไส้ค่ะ ... สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ ... |