http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

สอบถามเรืองยา

(อ่าน 1335/ ตอบ 1)

ฐานพัฒน์

ป็นริดสีดวงมานานมากล้วคะทำอย่งไงก้อไม่หายเป็นแบบบานข้างนอกค่อนข้างใหญ่ถ้าจะกินยาจะต้องกินนานแค่ไหนจะหายหรือว่ายุบลง



Link: คลิ๊กที่นี่

จนท

ยา ของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัวที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรค ริดสีดวงทวาร โดยตรง ไม่ ใช่สมุนไพรเดี่ยว คือเป็นเพชรสังฆาต อย่างเดียวคะ .. ตัวยาเพชรสังฆาตเป็นแค่ส่วนประกอบตัวหนึ่งในยาของเราคะ ยังมีสมุนไพรอื่นร่วมด้วยคะที่ไปช่วยเรื่อง รักษา อาการอักเสบ บริเวณภายในทวารหนักคะ
----------------------------------------------







โดยส่วนมากแล้ว 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ
1.
ใจร้อน
2.
ท้องผูก ท้องเสียตลอดเวลา
3.
ทานอาหารแสลงตลอดเวลา ทั้งๆที่รู้ว่าริดสีดวงของเราแสลงกับอาหารนั้น ...
4.
ร่าง กายไม่รับยาเลย ร่างกายรับยาของเราไม่ค่อยได้ เหมือนไม่ถูกกับยา .. แต่น้อยคนนะคะ ... เช่น เหมือนกับการที่เราทานยาแก้ปวดหัว ยี่ห้อ A แล้วไม่ได้ผล เหมือนไม่ถูกกับยา เลยต้องเปลี่ยนเป็นยี่ห้อ B C หรือ






--------------------------------------------

กรณี ที่มีติ่งออกมาแล้ว ... ต้องใช้เวลา เพราะการที่มีติ่งออกมาแล้ว ก็น่าจะเป็นมานานหลายปีแล้ว แต่บางคนก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพราะหัวริดสีดวงอยู่ภายใน เพิ่งมารู้ตัวว่าเป็นก็ตอนที่ติ่งออกมาอยู่ ข้างนอก
แต่ พอติ่งเริ่มรับยาได้ ... ติ่งก็จะค่อยๆฝ่อและหดลงไปคะ ... เรื่อง นี้รับรอง เพราะ คนที่เค้าเป็น และหาย หัวริดสีดวงของเค้าจะค่อยๆเล็กลงและหดกลับเข้าไปคะ ... แต่ช่วงเดือนแรกๆ (ถ้า กรณีเป็นมานาน) บางคนอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างแต่สังเกตุเห็นไม่ชัด แต่พอเดือน 2 เข้า เดือน 3 หรือเดือน ที่ 3 จะเห็นชัดคะ ว่าเล็กลง ...

 
การ ทานยาของบริษัท -- การรักษาต้องใช้เวลานิดนึงนะคะ  ... เนื่องจากยาของทางบริษัทเป็นยาสมุนไพร ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ เหมือนยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด ที่จะเห็นผลทันที หรือภายใน 1-2 วัน 1-2 อาทิตย์
เพราะ ถ้าเป็นริดสีดวงทวารแล้ว คุณหมอตามคลีนิคหรือโรงพยาบาล จะจ่ายยาประมาณ 2 อย่าง บางคนทานเป็นปีๆ และพอหัวริดสีดวงออกมาอยู่ข้างนอกถาวรแล้ว สุดท้ายคุณหมอก็จะนัดผ่าตัด.. ผ่าตัดแล้วส่วนมากจะไม่เกิน 3 ปีก็จะกลับมาเป็นใหม่ค่ะ ..
 
--------------------------------------------



ถ้า กรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่ นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ
1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มี ฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น
2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้น เลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บ อยู่แล้ว คะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัว ริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 
3.เป็น มานานแล้วหรือยัง... บาง คนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึก ว่าตัวเองเป็น .....  บางคน ก็ไม่ เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการ รักษาเลยไม่เหมือนกันคะ
4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว
5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลาย ติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา
6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรง เบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหาย ช้ามาก
7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจ จะทำให้หัว ของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ
---------------------------------------------------
-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล …..
-- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด
-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน
-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....  ถ้า ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย
 
------------------------------------------------------
 
สอบถามเพิ่ม เติมได้นะคะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view