http://www.samunpaiphuluang.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

ตัวแทนจำหน่าย

สาระน่ารู้

เว็บบอร์ด

ติดต่อเรา ทาง facebook หรือ โทร 038-448052 ถึง 3

ยาริดสีดวง..ดีจริง..พิสูจน์กับตัวเองมาแล้ว

(อ่าน 110152/ ตอบ 128)

JJ

เรียน เจ้าหน้าที่สมุนไพรภูหลวง
และถึงทุกๆท่านที่เป็นริดสีดวงอยู่
จากที่ตัวเองเริ่ม ถ่ายมีเลือดออก ทุกครั้ง ทุกวันตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.53 ช่วงนี้ก็ซื้อยาพวกดราฟล่อน มากินเอง รวมทั้งยาสมุนไพรเพชรสังฆาต ที่คนอื่นๆแนะนำมา แต่ก็ไม่หายเลย จนประมาณต้นก.ค.53 ก็เริ่มมีอาการตัวซีด หน้าเหลือง เหนื่อยง่าย หน้ามึด แถมเวลาถ่ายเข้าห้องน้ำจะเจ็บ แสบ ทรมานสุดบรรยาย จนอยากตายๆไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด มันเจ็บมากคนที่เป็นจะรู้ดี จึงไปหาหมอร.พ. หมอก็ให้ยาทาน ยาทา ยาเหน็บ ยาบำรุงเลือดมา ยาระบาย และหมอก็นัดผ่า แต่ขอหมอไว้ว่า ขอเวลา1-2เดือน ผ่านไปจนกลางเดือนก.ค.53ก็ไม่หาย แต่อาการดีขึ้นมานิดเดียว นิดเดียวจริงๆ จึงเริ่มค้นหาข้อมูลจากเน็ต จนมาเจอสมุนไพรภูหลวง จึงเริ่มทานมาตั้งแต่กลางเดือนก.ค.53 โดยทานยาของร.พ.ควบคู่ไปด้วย ระหว่างนี้ก็ปรึกษาเจ้าหน้าที่สมุนไพรภูหลวงไปด้วยตลอดเวลา จากที่เค้าบอกว่า1-2อาทิตย์เลือดก็หยุดไหล แต่เราไม่หยุดสักที เค้าก็บอกให้ใจเย็นๆ
แต่ระหว่างนี้ ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่รับรู้ได้อย่างชัดเจนคือ อาการเจ็บแสบ ทรมาน ตอนเข้าห้องน้ำ มันค่อยๆๆๆน้อยลง จนเห็นได้ชัด จากทรมานแทบอยากตาย เป็บเจ็บทรมาน แบบทนได้ จนผ่านมา 1เดือน(กลางเดือนส.ค.53) เลือดก็ไม่ออกแล้ว ก็หยุดทานยาจากร.พ. แต่ยังทานยาระบายอยู่ เพราะถ้าวันไหน ไม่ได้ทานผักผลไม้ ทานแต่แป้งและเนื้อสัตว์เยอะ ก็เกรงว่าจะถ่ายแข็ง จึงต้องใช้ยาระบายเป็นตัวช่วย แต่ถ้าวันไหนไม่จำเป็น ถ่ายได้ไม่แข็ง ก็ไม่ทานยาระบาย ถ่ายก็ไม่เจ็บแล้ว
จนเมื่อวันที่ 4ก.ย.53 ไปหาหมอ และเล่าให้หมอฟังว่า พยายามไม่ให้ถ่ายแข็ง เพราะเกรงว่าจะเป็นแผลอีก หมอบอกว่า ถ้าสามารถถ่ายได้ ปกติแล้ว ไม่ต้องพึ่งยาระบายตลอดเวลา ก็ไม่ต้องผ่า ดีใจมากๆ  หมอเลยนัดอีก2เดือน ค่อยว่ากันใหม่
จึงอยากบอกคนที่เป็นอยู่ อยากให้กำลังใจ เพราะเข้าใจดีว่า มันทรมานแค่ไหน อ้อ ระหว่างรักษาตัว ต้องงดอาหารเผ็ดรสจัด ของแสลงด้วยค่ะ (จำเป็นเพราะโดนกับตัวมาแล้ว)
ตอนนี้ต้องขอบคุณสมุนไพรภูหลวงมากๆๆๆที่ให้คำปรึกษามาตลอด ดีใจมากค่ะตอนนี้ ทานของเผ็ด ของแสลง เหล้าเบียร์ได้แล้ว (แต่ทานแบบระวังตัว ไม่เยอะ กลัวกลับไปเป็นอีก)
ที่สำคัญ ตอนนี้เข้าสังคม สังสรรค์กับเพื่อนฝูงได้แล้ว หลังจากที่ห่างมา3เดือน อ้างว่าเป็นโรคกระเพราะ 
แต่ตอนนี้ ยังทานสมุนไพรภูหลวง ต่อไปอีกเรื่อยๆน่ะค่ะ เพราะเท่าที่ปรึกษาดู จะทานไปเรื่อยๆ จนติ่งเนื้อรอบๆทวารมันยุบ เป็นเนื้อเดียวกัน ใช่หรือปล่าวค่ะ
ขอบคุณค่ะ ขอให้ทุกๆคน หายไวๆค่ะ


จนท



ให้นมลูกอยู่ สามารถทานยาได้ไหมค่ะ



อาริ เมื่อ 29/01/2014 - 21:28


ทานได้ค่ะ ...  แต่ปรับเรื่องการทานยานิดนึงนะคะ ...


การทานยา... ให้นมน้องเสร็จ ทานเลย 2 แคปซูล และหลังจากทานยา รอซัก 30 - 60 นาที ค่อยทานอาหาร ทานแบบนี้ 3 เวลา โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 4-6 ชั่วโมง .... หรือมื้อสุด จะทานเป็นก่อนนอนก็ได้


ยาไม่กัดกระเพาะ ขอให้ทานในตอนที่ท้องว่างยาจะได้ทำงานได้ดี .... และขอให้ทาน 1 วันให้ได้ 3 เวลา


ตัวยา แคปซูลใช้เวลาละลายไม่เกิน 15-30 นาที ... และหลังจากนั้นยาก็เริ่มละลายและทำงานแล้วค่ะ ... 


ถ้า งง สอบถามได้นะคะ ....

เท่

ถามหน่อยหน่อยค่ะ  คืดว่าตัวเองเป็นระยะสี่ แล้วล่ะ เพราะถ่ายมีเลือดออกบ้าง ไม่ทุกครั้ง แต่มีหัวใหญ่ออกมาข้างนอกตลอดเวลา  เป็นมานานแล้วค่ะ  แต่ช่วงหลังุถ่ายแล้วเจ็บตลอด แม้จะไม่มีเลือดก็ตาม


ต้องยาตัวไหนคะ เห็นมีอยู่สองตัว  และต้องกินปริมาณเท่าไหร่ เข้าใจว่า น่าจะกินต่างกันตามอาการแต่ละคนรบกวนด้วยนะคะ


แล้วอีกอย่าง ปกติเป็นคนท้องผูก ถ่ายเองไม่ได้ ต้องกินชาฟิตเน่แบบชงกับน้ำทุกวัน จะถ่ายคล่อง  ถ้าไม่กินจะไม่ถ่าย  และถ้าเกิดเรากินยานี่ จะต้องกินชาเพื่อช่วยระบายอีกหรือเปล่าค่ะ


 

จนท




ถามหน่อยหน่อยค่ะ  คืดว่าตัวเองเป็นระยะสี่ แล้วล่ะ เพราะถ่ายมีเลือดออกบ้าง ไม่ทุกครั้ง แต่มีหัวใหญ่ออกมาข้างนอกตลอดเวลา  เป็นมานานแล้วค่ะ  แต่ช่วงหลังุถ่ายแล้วเจ็บตลอด แม้จะไม่มีเลือดก็ตาม




ต้องยาตัวไหนคะ เห็นมีอยู่สองตัว  และต้องกินปริมาณเท่าไหร่ เข้าใจว่า น่าจะกินต่างกันตามอาการแต่ละคนรบกวนด้วยนะคะ




แล้วอีกอย่าง ปกติเป็นคนท้องผูก ถ่ายเองไม่ได้ ต้องกินชาฟิตเน่แบบชงกับน้ำทุกวัน จะถ่ายคล่อง  ถ้าไม่กินจะไม่ถ่าย  และถ้าเกิดเรากินยานี่ จะต้องกินชาเพื่อช่วยระบายอีกหรือเปล่าค่ะ




 



เท่ เมื่อ 11/04/2014 - 14:17



มียาแค่ตัวเดียวนะคะ สำหรับโรคริดสีดวงทวาร เป็นขวดสีขาว ฉลากสีฟ้าค่ะ ....


ยาของทางบริษัทไม่มีส่วนช่วยระบาย หรือ ขับถ่าย... ถ้าชาที่ทานอยุ่ไม่ได้ทำให้อุจจาระเหลว หรือถ่ายบ่อยก็ไม่เป็นไรค่ะ ... แต่การที่เราพึ่งยาระบายบ่อยๆ พอทานไปนานๆ  พออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ลำไส้จะทำงานเองไม่ได้นะคะ ต้องลองทานและหยุดบ้าง วันที่หยุดทานเราก็ลองทานเป็นอาหารที่ย่อยง่ายๆ และดื่มน้ำมากๆดู เพราะการที่อุจจาระเราแข็งเพราะร่างกายน้ำไม่พอทำให้ปลายลำไส้ใหญ่ไม่มีน้ำ อาหารที่ทานเข้าไปพอช่วงที่อยุ่ปลายลำไส้ใหญ่ พอไม่มีน้ำ ก็เลยแข็งค่ะ ...




อาการถ่ายแล้วมีเลือดออก -- อาการถ่ายเป็นเลือดสามารถเกิดได้กระยะของการเป็นริดสีดวงค่ะ ไม่ว่าริดสีดวงภายในหรือภายนอก หรือสามารถถ่ายเป็นเลือดได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 - 4 ค่ะ  . ขึ้นอยู่กับมีปัจจัยอะไรไปกระตุ้นให้เกิดอาการ ...



อยากแนะนำให้ ลองทานยาของเราดูก่อนนะคะ เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาริดสีดวงตั้งแต่ระยะที่ 1-4 เลยคะ ... และสามารถรักษาได้ทั้งภายในและภายนอก ... แต่ควรจะดูแลตัวเองด้วยนะคะช่วงที่ทานยา ... การทานยาของบริษัท -- การรักษาต้องใช้เวลานิดนึงนะคะ  ... เนื่องจากยาของทางบริษัทเป็นยาสมุนไพร ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ เหมือนยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด ที่จะเห็นผลทันที หรือภายใน 1-2 วัน 1-2 อาทิตย์เพราะ ถ้าเป็นริดสีดวงทวารแล้ว คุณหมอตามคลีนิคหรือโรงพยาบาล จะจ่ายยาประมาณ 2 อย่าง บางคนทานเป็นปีๆ และพอหัวริดสีดวงออกมาอยู่ข้างนอกถาวรแล้ว สุดท้ายคุณหมอก็จะนัดผ่าตัด.. ผ่าตัดแล้วส่วนมากจะไม่เกิน 3 ปีก็จะกลับมาเป็นใหม่ค่ะ บางคนผ่าตัดแล้วหูรูดเสียก็มีค่ะ ..




--------------------------


ช่วงที่ทานยาลองงด .. อาหารแสลง และอาหารที่ระคายเคืองลำไส้ด้วยนะคะ ...


เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว เนื้อวัว --- ควรจะงดนะคะเพราะเป็นเพราะถ้าทานแล้วจะระคายเคืองลำไส้ค่ะ  ...ต้องงดนะคะ ... ---



อาหารแสลงส่วนมาก ที่พบในผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว ถ้าทานอาหารพวกนี้อยู่รบกวนงดอาหารพวกนี้ก่อนนะคะ เพราะอาการริดสีดวงอาจจะแสลงกับอาหารตัวใดตัวหนึ่ง  และ พยายามดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสียนะคะ เพราะจะทำให้ริดสีดวงหายช้า ... พยายามรักษาธาตุให้เป็นปกติดีที่สุดค่ะ .... เพราะถ้าเรายังทานอาหารแสลง อาการแสลงอาหารจะหายไปเองหรือบรรเทาไปภายในไม่เกิน 10 วัน แต่ 10 วันนี้ทานยาไปก็ช่วยบรรเทา ....


ข้อแนะนำเพิ่มเติม

-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ยาไม่กัดกระเพาะนะคะ ไม่ได้ทานอาหารก็สามารถทานยาได้ค่ะ ... ถ้ามื้อไหนลืมทานยาให้มาเพิ่มการทานยาเป็นก่อนนอนแทนนะคะ ...
-- ดูแลตัวเอง
อย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด (ไม่แนะนำให้ทานยาถ่ายหรือยาระบายจนกระทั่งถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำนะคะ)
-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ..
. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน
-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....
  ถ้า ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาเร็วขึ้นและใหญ่ขึ้น


ถ้ากรณีมีหัวและมีติ่งแล้ว เราไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนให้นะคะ เพราะการรับยาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ขอให้ทานยาได้วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง ... กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะคะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ...


------------------------------------------------------


เรื่องการทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ...


ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ


1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 %  แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น


2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 


3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น .....  บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ...  ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ


4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว


5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา


6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก


7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ





โดยส่วนมากแล้ว 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ
1.
ใจร้อน
2.
ท้องผูก ท้องเสียตลอดเวลา
3.
ทานอาหารแสลงตลอดเวลา ทั้งๆที่รู้ว่าริดสีดวงของเราแสลงกับอาหารนั้น ...
4.
ร่าง กายไม่รับยาเลย ร่างกายรับยาของเราไม่ค่อยได้ เหมือนไม่ถูกกับยา .. แต่น้อยคนนะคะ ... เช่น เหมือนกับการที่เราทานยาแก้ปวดหัว ยี่ห้อ A แล้วไม่ได้ผล เหมือนไม่ถูกกับยา เลยต้องเปลี่ยนเป็นยี่ห้อ B C 



--------------------------------------------


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ





-- ตัวแทนจำหน่ายดูได้จากเมนูด้านบนหรือด้านซ้ายมือนะคะ ---


สาวลาดกระบัง

ขอสอบถามค่ะ เป็นริดสีดวงระยะที่ 3 ค่ะ ต้องกินยาติดต่อกัน 3 เดือน เมื่อติ่งหายกินต่ออีก 3 เดือนหรือค่ะ


แล้วร้านสุขภาพยา รุ่งกิจ 9 ยังมียาขายอยู่ไหมค่ะ 


ขอบคุณค่ะ

จนท



ขอสอบถามค่ะ เป็นริดสีดวงระยะที่ 3 ค่ะ ต้องกินยาติดต่อกัน 3 เดือน เมื่อติ่งหายกินต่ออีก 3 เดือนหรือค่ะ




แล้วร้านสุขภาพยา รุ่งกิจ 9 ยังมียาขายอยู่ไหมค่ะ 




ขอบคุณค่ะ



สาวลาดกระบัง เมื่อ 17/04/2014 - 16:35


เป็นริดสีดวงระยะที่ 3 ค่ะ ต้องกินยาติดต่อกัน 3 เดือน  --  แต่ละคนระยะเวลาการทานยาจนกระทั่งติ่งฝ่อไปหมดไม่เท่ากันค่ะ บางคนเร็ว บางคนช้า ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วยค่ะ เช่น การดูแลตัวเองเรื่องการทานอาหาร พยายามงดอาหารที่ระคายเคืองลำไส้ และอาหารแสลง  และพยายามดูแลตัวเองเรื่องการขับถ่าย อย่าให้ท้องผูกจนต้องเบ่งถ่าย และพยายามอย่าให้ท้องเสีย ถ่ายเหลว ... 


เมื่อติ่งหายกินต่ออีก 3 เดือนหรือค่ะ -- ใช่ค่ะ ...


ร้านสุขภาพยา รุ่งกิจ 9 ยังมียาขายอยู่ไหมค่ะ  --- มีค่ะ ..


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ...


มด

สวัสดีครับ ผมชื่อ มดครับ 


คือผมมีเรื่องจะปรึกษาเรื่องริดสีดวงครับ


คือตอนนี้ผมเป็นมานานมากแล้วครับ ประมาน ห้าถึงหกเดือนได้แล้วครับ


ตอนแรกก็อักเสบ แต่ตอนนี้ ไม่มีอาการเจ็บแล้วครับ แต่ถ่ายออกมาเป็นเลือด


และรูก้นก็นูนๆ เยอยากจะสอบถามครับว่า มีวิธีที่รักษาให้หายขาดได้ไหมครับ 


เป็นมานานมากแล้วครับ รักษา หมอก็ให้แต่กินยาอย่างเดียว แต่ไม่ดีขึ้นเลนครับ


ดีเป็นช่วงๆเท่านั้น ยังไงผมรบกวนด้วยนะครับ


mod28_so@hotmail.com


0852995256

จนท



คนที่เป็นริดสีดวงถึงขั้นมีติ่ง ... ต้องเป็นจากภายในมาก่อน แต่เราไม่รู้ตัว... แล้วติ่งนั้นที่อยู่ภายในจะค่อยๆดันออกมาข้างนอกค่ะ ถ้ากรณีที่ดันออกมาข้างนอกแล้ว ระยะการเป็นริดสีดวงที่อยู่ภายในไม่น่าต่ำกว่า 5 ปีค่ะ



อาการถ่ายแล้วมีเลือดออก -- อาการถ่ายเป็นเลือดสามารถเกิดได้กระยะของการเป็นริดสีดวงค่ะ ไม่ว่าริดสีดวงภายในหรือภายนอก หรือสามารถถ่ายเป็นเลือดได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 - 4 ค่ะ  . ขึ้นอยู่กับมีปัจจัยอะไรไปกระตุ้นให้เกิดอาการ ...


------------------------------------------------------------


ลองทานยาดูก่อนนะคะ .. เดี๋ยวติ่งที่นูนๆ จะค่อยๆฝ่อไปค่ะ แตอาการถ่ายเป็นเลือดจะหายก่อนนะคะ ...



กรณีที่ถ่ายเป็นเลือด ภายใน 15 วัน...อาการถ่ายเป็นเลือดจะหาย ยกเว้นกรณีมากจริงๆ แบบบางคนที่ต้องเอาแผ่นผ้าอนามัยมันมารองแบบออกมาทั้งวัน ...อาการนี้ ภายใน 15 วันจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


แต่ถ้ากรณีมีหัวและมีติ่งแล้ว เราไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนให้นะคะ เพราะการรับยาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ขอให้ทานยาได้วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง ... กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะคะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ...


ช่วงที่ทานยาลองงด .. อาหารแสลง และอาหารที่ระคายเคืองลำไส้ด้วยนะคะ ...



เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว เนื้อวัว --- ควรจะงดนะคะเพราะเป็นเพราะถ้าทานแล้วจะระคายเคืองลำไส้ค่ะ  ...ต้องงดนะคะ ... ---



อาหารแสลงส่วนมาก ที่พบในผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยว ถ้าทานอาหารพวกนี้อยู่รบกวนงดอาหารพวกนี้ก่อนนะคะ เพราะอาการริดสีดวงอาจจะแสลงกับอาหารตัวใดตัวหนึ่ง  และ พยายามดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสียนะคะ เพราะจะทำให้ริดสีดวงหายช้า ... พยายามรักษาธาตุให้เป็นปกติดีที่สุดค่ะ .... เพราะถ้าเรายังทานอาหารแสลง อาการแสลงอาหารจะหายไปเองหรือบรรเทาไปภายในไม่เกิน 10 วัน แต่ 10 วันนี้ทานยาไปก็ช่วยบรรเทา ....

 

ถ้ามีอาการ .... ท้อง ผูกมาก .... ลองดื่มน้ำมากขึ้นนะคะ ถ้าตอนขับถ่ายหัวอุจจาระแข็งแล้วพอหัวอุจจาระออกมาแล้ว อุจจาระค่อยๆนิ่มขึ้น หมายถึงเราดื่มน้ำไม่พอ พอร่างกายต้องการใช้น้ำก็จะดึงตามส่วนต่างๆไป โดยเฉพาะปลายลำไส้ใหญ่ค่ะ ทำให้หัวอุจจาระแข็งเราเลยต้องออกแรงเบ่งค่ะ ...

------------------------------------------------------




ข้อแนะนำเพิ่มเติม

-- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ยาไม่กัดกระเพาะนะคะ ไม่ได้ทานอาหารก็สามารถทานยาได้ค่ะ ... ถ้ามื้อไหนลืมทานยาให้มาเพิ่มการทานยาเป็นก่อนนอนแทนนะคะ ...
-- ดูแลตัวเอง
อย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด (ไม่แนะนำให้ทานยาถ่ายหรือยาระบายจนกระทั่งถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำนะคะ)
-- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ..
. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน
-- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ ....
  ถ้า ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ...  พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาเร็วขึ้นและใหญ่ขึ้น


 


--------------------------------------------


 


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

บีม

มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ.....ส่วนตัวเป็นริดสีดวงภายในค่ะ น่าจะอยู่ระยะที่ 3-4 แล้วค่ะ เพราะมีติ่งยื่นออกมาสามารถดันกลับไปได้ แต่บางครั้งกว่าจะดันกลับเข้าไปก็ยากอยู่ ทรมานมากๆค่ะ โดยปกติเป็นคนท้องผูกบ่อยมาก ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ ยิ่งเวลาขับถ่ายก็ต้องออกแรงเบ่ง นี่คือสาเหตุหลักที่เป็นริดสีดวงเลยค่ะ (เครียดมากเมื่อรู้ว่าเป็น) เพิ่งมีอาการอักเสบประมาณเกือบเดือนแล้วค่ะ แรกๆปวด ทรมานมากๆ นั่งก็เจ็บ นอนก็เจ็บ แทบจะไมได้ทำอะไรเลย เริ่มซื้อยาจากเภสัชแถวบ้านมาทาน ก็ดีขึ้นมาหน่อย อาการที่เจ็บตลอด ก็ลดลงมีแค่เจ็บเฉพาะเวลาขับถ่าย ทานยาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ก็คิดว่าดีขึ้น ติ่งเริ่มยุบลง แต่พอท้องผูก มันก็เริ่มโตอีก (คล้ายๆเดี๋ยวโต เดี๋ยวก็ลดลง) คราวนี้เริ่มหาข้อมูล จากเว็บนี้ อ่านจากกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จนท.ให้คำแนะนำดีมากค่ะ อ่านแล้วเข้าใจทันที ตอนนี้ทานยาภูหลวงได้ประมาณ1 อาทิตย์แล้วค่ะ อาการเจ็บเวลาขับถ่ายไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ แต่ยังมีติ่ง/หัว อยู่ค่ะ ที่เจ็บขณะขับถ่ายเพราะต้องเบ่งก่อน แล้วมันถึงจะถ่ายเป็นปกติ (เพิ่งอ่านพบว่าเพราะดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อร่างกาย) ตอนนี้ขับถ่ายทุกวันค่ะ แต่จะมีเจ็บอยู่บ้าง เพราะต้องดันติ่งกลับเข้าไป อยากหายไวไวค่ะ ตอนนี้เนื้อสัตว์ไม่ค่อยทาน เลือกทานอาหารมากขึ้น ทานกล้วยหอมทุกวัน ช่วยในการขับถ่ายด้วย แช่น้ำอุ่นเวลาขับถ่ายเสร็จ .....อยากทราบว่า มันจะหายจริงๆใช่ป่ะค่ะ บางครั้งก็เครียดนะค่ะ นึกเสียดายที่ไม่ดูแลตัวเองให้ดี แต่พอมาอ่านในกระทู้ มันกลับมีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ทรมาน ขอบคุณนะค่ะ ที่ทำให้รู้สึกดี มีกำลังขึ้นมากเลย....(เดี๋ยวจะทานยาไปเรื่อยๆ ถ้าอาการดีขึ้นจะรีบมารายงานนะค่ะ)

จนท


มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ.....ส่วนตัวเป็นริดสีดวงภายในค่ะ น่าจะอยู่ระยะที่ 3-4 แล้วค่ะ เพราะมีติ่งยื่นออกมาสามารถดันกลับไปได้ แต่บางครั้งกว่าจะดันกลับเข้าไปก็ยากอยู่ ทรมานมากๆค่ะ โดยปกติเป็นคนท้องผูกบ่อยมาก ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ ยิ่งเวลาขับถ่ายก็ต้องออกแรงเบ่ง นี่คือสาเหตุหลักที่เป็นริดสีดวงเลยค่ะ (เครียดมากเมื่อรู้ว่าเป็น) เพิ่งมีอาการอักเสบประมาณเกือบเดือนแล้วค่ะ แรกๆปวด ทรมานมากๆ นั่งก็เจ็บ นอนก็เจ็บ แทบจะไมได้ทำอะไรเลย เริ่มซื้อยาจากเภสัชแถวบ้านมาทาน ก็ดีขึ้นมาหน่อย อาการที่เจ็บตลอด ก็ลดลงมีแค่เจ็บเฉพาะเวลาขับถ่าย ทานยาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ก็คิดว่าดีขึ้น ติ่งเริ่มยุบลง แต่พอท้องผูก มันก็เริ่มโตอีก (คล้ายๆเดี๋ยวโต เดี๋ยวก็ลดลง) คราวนี้เริ่มหาข้อมูล จากเว็บนี้ อ่านจากกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จนท.ให้คำแนะนำดีมากค่ะ อ่านแล้วเข้าใจทันที ตอนนี้ทานยาภูหลวงได้ประมาณ1 อาทิตย์แล้วค่ะ อาการเจ็บเวลาขับถ่ายไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ แต่ยังมีติ่ง/หัว อยู่ค่ะ ที่เจ็บขณะขับถ่ายเพราะต้องเบ่งก่อน แล้วมันถึงจะถ่ายเป็นปกติ (เพิ่งอ่านพบว่าเพราะดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อร่างกาย) ตอนนี้ขับถ่ายทุกวันค่ะ แต่จะมีเจ็บอยู่บ้าง เพราะต้องดันติ่งกลับเข้าไป อยากหายไวไวค่ะ ตอนนี้เนื้อสัตว์ไม่ค่อยทาน เลือกทานอาหารมากขึ้น ทานกล้วยหอมทุกวัน ช่วยในการขับถ่ายด้วย แช่น้ำอุ่นเวลาขับถ่ายเสร็จ .....อยากทราบว่า มันจะหายจริงๆใช่ป่ะค่ะ บางครั้งก็เครียดนะค่ะ นึกเสียดายที่ไม่ดูแลตัวเองให้ดี แต่พอมาอ่านในกระทู้ มันกลับมีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ทรมาน ขอบคุณนะค่ะ ที่ทำให้รู้สึกดี มีกำลังขึ้นมากเลย....(เดี๋ยวจะทานยาไปเรื่อยๆ ถ้าอาการดีขึ้นจะรีบมารายงานนะค่ะ)



บีม เมื่อ 21/04/2014 - 23:03


สวัสดีค่ะ คุณบีม.... พยายามทานยาให้ต่อเนื่องนะคะ เดี๋ยวอาการจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ... ไม่ต้องกังวลนะคะ ... การดูแลตัวเองด้วยแบบที่คุณบีมทำอยู่ก็มีส่วนช่วยให้หายไวขึ้นค่ะ ... แต่อย่าลืมนะคะ พอหายสนิทแล้ว อย่าลืมทานยาต่อเนื่องอีก 2-3 เดือนนะคะ ... เพราะเผื่อมีหัวริดสีดวงภายในอยู่ หรือยังฝ่อไม่หมด การทานยาต่อติ่งที่อยู่ภายในจะได้ฝ่อหมดค่ะ


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ

เจ

ตอนนี้ก้อเป็นเหมือนกันค่ะคิดว่าน่าจะเป็นระยะที่4แล้ว เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว จะปวดมากเวลาถ่ายไม่รู้จะทำไงดีติ่งเนื้อจะยื่นออกมาตลอกเวลาที่ถ่ายและจะพยายามทำให้มันยุบเข้าไปทรมานมากๆกินยามาแล้วทุกขนานไม่หายสักที บางครั้งทรมานจนอยากจะตัดมันออกทิ้งไปสักที พอมาอ่านเจอในเน็ตก็อยากลองดูยาของภูหลวงอีกสักครั้ง ถ้าไม่ดีขึ้นต้องพึ่งการผ่าตัดเสียแล้ว

http://Eaettp://

jaja

ตั้งครรภ์ 6 เดือนแล้ว ทานยาได้รึป่าวคะ

จนท



ตั้งครรภ์ 6 เดือนแล้ว ทานยาได้รึป่าวคะ



jaja เมื่อ 03/02/2015 - 16:34


ได้ค่ะ ... แต่ถ้ายังไม่เจ็บมาก หรืออาการยังไม่รุนแรงรอคลอดก่อนก็ได้นะคะ ... จะได้รักษาทีเดียว ..เพราะใกล้คลอดแล้ว .. เนื่องจากตอนคลอดแรงเบ่งหรือแรงดันในช่องคลอดตอนที่เราปวดท้อง อาจทำให้มีหัวริดสีดวงดันออกมาอีก (กรณีที่มีหัวริดสีดวงอยู่ภายใน) ... จะได้ค่อยรักษาทีเดียวเลยค่ะ ...


เพราะคุณแม่หลายๆคนบางคนไม่รู้ว่าตัวเองมีริดสีดวงภายในอยุ่อีก พอคลอดน้องปุ๊ป หัวริดสีดวงดันออกมาเลยค่ะ .. บางคนก็ 1 หัว 2 หัว หรือ 3 หัวค่ะ ... 


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ ... 





ดาต้า

ดาต้า

มีติ่งแข๋งๆๆค่ะเริ่มมีอาการปวดเวลานั่วนานๆๆ  อยากทราบว่าต้องทานยาแบบไหนค่ะแนะนำหน่อยจะได้สัางซื้อค่ะ

จนท



มีติ่งแข๋งๆๆค่ะเริ่มมีอาการปวดเวลานั่วนานๆๆ  อยากทราบว่าต้องทานยาแบบไหนค่ะแนะนำหน่อยจะได้สัางซื้อค่ะ



ดาต้า เมื่อ 03/01/2016 - 20:41


ยามีตัวเดียวค่ะ .. สำหรับโรคริดสีดวงทวาร ... 


ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัว (ไทย+จีน) ที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรค ริดสีดวงทวาร โดยตรง ทั้งริดสีดวงภายในและภายนอก ระยะที่ 1 - ระยะที่ 4


ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา .. .ดังนั้นการรักษาอาจนานกว่าคนที่ติ่งยังนิ่มอยู่นะคะ ...


ถ้าติ่งนิ่มนะคะ ... ให้ดูตอนเข้าเดือนที่ 2-3 นะ คะ (บอกแบบนานๆไว เพราะบางคนลืมทานยาบ่อย) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงกับติ่งแน่นอนค่ะ ... บางทีถ้า เดือนสองเดือนแรกก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางคน แต่เรายังอาจเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเดือนที่ 3 น่าจะชัดแล้วว่าฝ่อ ... แต่บางคนถ้าดูแลตัวเองด้วยเดือนแรก หัวริดสีดวงก็ค่อยๆเล็กลงแล้วก็มีเยอะนะคะ ... แต่ถ้าหัวริดสีดวงแข็งแล้วก็อาจนานกว่านี้หน่อยค่ะ ..


โดยส่วนมากแล้วคนที่ทานยาริดสีดวงของทางบริษัท 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ
1. ใจร้อน
2. ท้องผูก ท้องเสียตลอดเวลา
3. ทานอาหารแสลงตลอดเวลา ทั้งๆที่รู้ว่าริดสีดวงของเราแสลงกับอาหารนั้น ...


4. ทานยาสมุนไพรอื่นๆ พร้อมกับยาของทางบริษัท


5. ทานยาระบายเป็นประจำหรือทานยาที่มีส่วนผสมของยาระบาย เพราะ การทานยาระบายเป็นประจำจะทำให้ริดสีดวงเป็นๆหายๆ


-------------------------


ถ้าสนใจนะคะ 


ตัวแทนจำหน่ายดูได้จากเมนูด้านซ้ายมือนะคะ ... 



สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ ....


 

Zzzzzzzz

รบกวนครับ.  ที่พระพุทธบาท. จ  สระบุรี.  มีขายที่ไหนครับ.  หรือลพบุรีก็ได้ครับ. ขอบคุณครับ

http://samunpaiphuluang.com

จนท



รบกวนครับ.  ที่พระพุทธบาท. จ  สระบุรี.  มีขายที่ไหนครับ.  หรือลพบุรีก็ได้ครับ. ขอบคุณครับ



Zzzzzzzz เมื่อ 22/02/2016 - 03:03


ร้าน สุกิจเภสัช  25-125/1(ข้าง ธ.ออมสิน) อ.พระพุทธบาท   เบอร์โทร...036-323-686


-------------------------------------


ลพบุรี    



* ร้าน ชัยธานีเภสัช  555/1 ตลาด กม.12 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม   เบอร์โทร...036-436-535
* ร้าน สมหมายเภสัช  517 ถ.นารายณ์มหาราช(ท่ารถ บ.ข.ส.)ต.ทะเลชุมศร อ.เมือง   เบอร์โทร...036-613-851
* ร้าน สมบูรณ์เภสัช  119-121 ตลาดท่าโพธิ์ ถ.ปรางค์สามยอด ต.ท่าหิน อ.เมือง   เบอร์โทร...036-411-080
* ร้าน เพ็ญสกุลเภสัช  96 ถ.ราชดำเนิน ต.ท่าหิน อ.เมือง   เบอร์โทร...036-412-201
* ร้าน สมบูรณ์บ้านยา  1/2 ม.2 วงเวียนโคกตูม ต.โคกตูม อ.เมือง   เบอร์โทร...036-658-166,085-825-4657
* ร้าน สมชายเภสัช  52/1-2 ถ.ประชาวิถี อ.โคกสำโรง   เบอร์โทร...036-441-280
* ร้าน โคกสำโรงฟาร์มาซี    22/8 ซ.วัฒนา 3 อ.โคกสำโรง    เบอร์โทร...036-441-997
* ร้าน ตั้งสลุงเภสัช  192 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ลำสนธิ   เบอร์โทร...081-853-3938
* ร้าน นารายณ์เภสัช  024 ตลาดลำนารายณ์  อ.ชัยบาดาล   เบอร์โทร...036-461-234
* ร้าน คลังยาเภสัช  1/26-27 ม.5 ถ.ท่ามะนาว ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล   เบอร์โทร...089-445-4826
* ร้าน บ้านหมี่ฟาร์มาซี  209/18 ถ.เทศบาล อ.บ้านหมี่   เบอร์โทร...036-472-581,081-771-2235


--------------------------------------------------------


การทานยานะคะ..



ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง .. ยาไม่กัดกระเพาะนะคะ ไม่ได้ทานอาหารก็สามารถทานยาได้ค่ะ .. และถ้ามื้อไหนลืมทานยาทานเป็นก่อนนอนแทนก็ได้นะคะ .. ควรทานยาให้ครบ 3 เวลา เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องค่ะ


----------------------------------------------


สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ 

แม่สาวน้อย

กินสมุนไพรภูหลวงตัวนี้แล้วถ่ายแข็งมากเวลาถ่ายเจ็บมาก ถ่ายไม่ค่อยออก กินยาตัวไหนช่วยได้บ้างคะ

จนท



กินสมุนไพรภูหลวงตัวนี้แล้วถ่ายแข็งมากเวลาถ่ายเจ็บมาก ถ่ายไม่ค่อยออก กินยาตัวไหนช่วยได้บ้างคะ



แม่สาวน้อย เมื่อ 30/05/2016 - 21:30


ต้องแจ้งให้ทราบก่อนนะคะ .. ว่ายาของเราจะเน้นเรื่องลดอาการอักเสบสของเส้นเลือด จะไม่มีพวกยาช่วยระบายในนั้นเลย ... เพราะการทานยาระบายเป็นสาเหตุทำให้เป็นริดสีดวงทวาร ดังนั้นถ้าทานยาที่มีส่วนผสมของยาระบายก้จะทำให้ริดสีดวงเป็นๆ หายๆ .. 


อุจจาระแข็ง ... ลองดื่มน้ำมากขึ้นนะคะ ถ้าตอนขับถ่ายหัวอุจจาระแข็งแล้วพอหัวอุจจาระออกมาแล้ว อุจจาระค่อยๆนิ่มขึ้น หมายถึงเราดื่มน้ำไม่พอ พอร่างกายต้องการใช้น้ำก็จะดึงตามส่วนต่างๆไป โดยเฉพาะปลายลำไส้ใหญ่ค่ะ ทำให้หัวอุจจาระแข็งเราเลยต้องออกแรงเบ่งค่ะ ...  



การดื่มน้ำที่ถูกต้อง คือพยายามจิบบ่อยๆ ดื่มทีไม่ต้องมาก เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเข้าไปร่างกายก็จะดูดซึมไปใช้ตามส่วนต่างๆ  แต่ถ้าเราดื่มน้ำทีละมากๆ ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่ทันก็ไร้ประโยชน์.... สุดท้ายน้ำที่ดื่มเข้าไปมากๆแทนที่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้...ก็ถูกขับออกมาทางปัสสาวะแทนค่ะ ...


เน้นการทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ+ดื่มน้ำเยอะๆก็ช่วยได้นะคะ .



ผลไม้ถ้าจะทาน ต้องทานก่อนอาหารนะคะ เพราะผลไม้ย่อยง่ายกว่าอาหารที่เราทานไป ถ้าเราทานหลังอาหารผลไม้ย่อยหมดก่อนอาจทำให้เป็นกรด และอาการท้องอืด พอท้องอืดนานๆ ท้องผูกก็ตามมาค่ะ



การทานอาหารอย่าเน้นแต่กากใยนะคะ .. ควรมี อาหารตัวอื่นด้วย เช่น ปลา ไข่ .. หรือพยายามทานอาหารที่ย่อยง่ายๆร่วมด้วย   เพราะถ้าทานแต่ผลไม้และกากใย .. เวลาลงไปที่ปลายลำไส้แล้วกากใยจะเป็นแพ .. พอเราดื่มน้ำกากใยก็ดูดน้ำ ..แพก็จะขยาย .. เวลาเราถ่ายเราเลยต้องออกแรงเบ่งมากขึ้นค่ะ .. ดังนั้นการทานอาหาร...ควรทานอาหารอื่นๆร่วมด้วยไม่ใช่แค่ผัก ผลไม้... เพื่อให้กากใยไปเกาะอาหาร.. การถ่ายจะง่ายขึ้นค่ะ ...


----------------------------


ลองดูแลตัวเองตามนี้นะคะ ... เรื่องยาระบายอย่าทานเลย เดี๋ยวติด ... 



วีระเกียรติ

มื่อวานมีการท้องเสียครับ ถ่าย 4 คร้ัง พอรอบที่ 4 มีเลือตามออกมาเลยครับ ต้องใช้ทิชชู่รองที่กางเกงในหลังจากนั้นมีเลือดเลอะที่ทิชชู่บ้างแต่ไม่เยอะครับ แต่วันนี้เช้าถ่ายสองรอบครับไม่มีเลือดออก ที่ผ่านมาผมเป็นอยู่ คือเป็นๆหายๆ ก็ทานยาเพชรสังฆาตของอีกแบรนด์อยู่ครับ ไม่เคยมีเลือดออกมานานแล้ว วันนี้ได้ลองเข้ามาอ่านจากข้อมูลของยาภูหลวง ก็เลยไปซื้อมาครับ คือผมจะมีติ่งออกมาเวลาขับถ่าย ไม่ใหญ่มาก ไม่เคยเจ็บเวลาขับถ่ายครับ และไม่เคยปล่อยให้ท้องผูก เพราะจะทานผักเป็นประจำ หรือว่าช่วงหลังจะทานพวกเนื้อย่าง ลาบหมูบ่อยและทานผักสดอาจมีผลหรือป่าวครับ ยังไงแล้วหลังจากทานยาภูหลวงมีอาการเป็นเช่นไรจะเข้ามาโพสให้ทราบครับ ขอบคุณครับ

http://www.samunpaiphuluang.com/

Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view

 หน้าแรก

 ผลิตภัณฑ์ภูหลวง

 สาระน่ารู้

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view