Webboardกินยาริดสีดวงทวารมา20วันแล้ว จะต้องทานถึงเมื่อไร
|
นิ่ม |
ทานยามาได้ 20วัน อาการดีขึ้นมากๆเลยค่ะ ไม่เจ็บแล้ว
ติ่งที่ยื่นออกมาก็นิ่มและดูเล็กลงนิดนึงแล้ว อ่านจากกระทู้อื่นว่าถ้าทานยาต่ออีก3เดือน อาการจะหายขาด ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มนับจากเมื่อไรคะ เริ่มนับจากวันแรกที่ทานยาได้เลยหรือป่าวคะ และอยากสอบถามถึงเรื่องอาหารแสลงค่ะ ว่าเราจะต้องงดทานอาหารแสลงตลอดไปเลยหรือคะ หรือว่าให้งดเฉพาะในช่วงที่มีอาการอักเสบ หรือว่างดในช่วงที่ทานยา ขอบคุณมากค่ะ |
|
xxx |
ผมมีอาการริดสีดวงแบบเป็นๆหายๆ มาหลายปีแล้วครับ ไม่ได้เป็นมากแต่เป็นแบบน่ารำคาญใจนะครับ ประมาณว่า 2-3 เดือนจะถ่ายแล้วมีเลือดออกมา 3-4 ที ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเป็นตอนถ่ายนี่จะเจ็บมากครับ แต่พอลองปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการกินอาหาร อาการเริ่มดีขึ้น แต่มันก็ไม่หายขาด หลังๆจะก็มีถ่ายมีเลือดออกมาบ้าง แต่ไม่เจ็บแล้ว แต่มันก็ไม่หายขาด ตอนนี้มาลอง สมุนไพรภูหลวง + ถ่ายทุกวัน(โดยใช้วิธีฉีดน้ำเข้าก้น) ผ่านมา 5-6 เดือนแล้วยังไม่มีอาการถ่ายแล้วเลือดออก จึงมาโพสบอก วิธีดูแลตัวเองครับ คิดว่าโรคนี้ไม่น่าจะมีหายขาดอ่ะนะ แต่ต้องมีวิธีดูแลตัวเองคือ 1. ทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆหน่อย (แต่ต้องดึมน้ำตามมากๆด้วย อ่านมาจากเวปไหนไม่รู้เค้าบอกว่าถ้ากินไฟเบอร์มากแต่ไม่ดื่มน้ำตามมากๆ อุจจาระก็จะแข็งอยู่ดี) 2. ฝึกถ่ายทุกวัน โดยเวลาถ่าย อย่าเบ่ง แล้วก็เวลาถ่ายต้องค่อยๆให้อุจจาระค่อยไหล โดยขมิบก้นเรื่อยๆ (อันนี้ไม่แน่ใจดีหรือเปล่า) 3. ถ้าวันไหนรู้สึกถ่ายยาก หรือว่า อุจจาระมันไม่ค่อยยอมออก ผมใช้การ ใช้น้ำฉีดเข้าที่ก้น (ใช้ที่ฉีดตูดฉีดเอา) โดยวิธีฉีดคือ ยื่นขึ้นแล้วยกขาข้างนึงไปพาดอะไรซักอย่าง ให้ขาทำมุม 90 องศา แล้วค่อยเอาน้ำฉีดก้น (คิดว่าถ้านั่งยองๆฉีดไม่น่าดีครับ) อ้ออีกอย่างคือ ให้ใช้ส่วมแบบสมัยใหม่ ส่วมแบบนั่งยองรู้สึกทำให้เป็นริดสีดวงได้ง่าย 4. ผมใช้ยาสมุนไพรภูหลวง ประมาณ 2-3 เดือน (ตอนนี้ไม่ได้ใช้มา 3 เดือนแล้ว) คิดว่ายาน่าจะทำให้หัวริดสีดวง นิ่มลงนะครับ (อันนี้ความรู้สึกส่วนตัว ถ้าหัวนิ่มลงแต่ยังถ่ายแข็งก็อาจจะเลือดออกได้ เลยต้องใช้น้ำฉีดเป้นตัวให้ อุุจจาระนิ่มด้วย)
|
|
นุ |
อยากจะทราบว่า อาหารแสลงที่ว่านี้ คือ จะแสลงเมื่อทานยาไป |
|
ปวีณา |
สวัวดีค่ะ พอดีนู๋ก็เป็นริดสีดวงเหมือนกันค่ะ น่าจะประมาณ 2-3 ปีแล้วค่ะ ตอนแรกเป็นคิดว่าไม่เป็นไรมาก ไม่ได้สนใจไรมากมาย แต่พอนานๆ เข้า เริ่มเป็นหนักขึ้น จนทำให้มีติ่งที่ทวาร การขับถ่ายก็ลำบาก เวลาปวดท้องเข้าน้ำ อยากถ่ายออกมาแต่เมื่อมีความรู้สึกเจ็บที่ทวารเลยทำให้ไม่อยากถ่าย (หรืออั่นถ่ายค่ะ) มันเลยทำให้อาการหนักขึ้นค่ะ และบางครั้งอยากถ่ายแต่ถ่ายไม่ได้เพราะมีอาการเจ็บปวด อึดอัดมากค่ะ เลยมาศึกษาดูหายาทานโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเพราะกลัวแล้วก็อายหมอค่ะ จึงทำให้มาเจอสมุนไพรภูหลวง ลองอ่านหน้าเว็บหลายคนบอกว่าดี เลยอยากสอบถามค่ะต้องทานยากี่กระปุกค่ะถึงหายขาดและมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกหรือเปล่าค่ะ และอยากทราบว่าราคายาอยู่ราคาเท่าไรค่ะ ...รบกวนช่วยบอกที่น่ะค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ...... |
|
ยุ้ย |
สวัสดีค่ะ คือว่า นู๋เป็นริดสีดวงเหมือนกันค่ะ มีติ่งด้านนอก มาซักพักแล้ว แต่ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ช่วงแรกๆเวลาถ่าย ก็มีลักษณะว่าเหมือนท้องผูกค่ะ ช่วงถ่ายเสร็จแรกๆ ก็เหมือนมีติ่งเนื้อออกมาค่ะ แต่ก็หายไปเอง แล้วก็หายปกติไปช่วงนึงค่ะ แม้จะมีอาการท้องผูก คือท้องผูกเป็นประจำค่ะ แต่เวลาถ่ายก็ไม่มีติ่งเนื้อ จนมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ถ่ายแข็งนิดนึงค่ะ และมีเลือดแดงสด ออกมาด้วยนิดนึง ตกใจมากเลยค่ะ พอมาสังเกตุก็พบติ่งเนื้อด้วยค่ะ ลักษณะนุ่มๆ ไม่เจ็บค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาค่ะ ว่าต้องทานยาอย่างไรบ้าง ไม่กล้าไปหาหมอที่โรงบาลค่ะ และไม่อยากผ่าด้วย และราคายาอยู่ที่เท่าไหรคะ |
|
จนท |
สวัสดีค่ะ คือว่า นู๋เป็นริดสีดวงเหมือนกันค่ะ มีติ่งด้านนอก มาซักพักแล้ว แต่ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ช่วงแรกๆเวลาถ่าย ก็มีลักษณะว่าเหมือนท้องผูกค่ะ ช่วงถ่ายเสร็จแรกๆ ก็เหมือนมีติ่งเนื้อออกมาค่ะ แต่ก็หายไปเอง แล้วก็หายปกติไปช่วงนึงค่ะ แม้จะมีอาการท้องผูก คือท้องผูกเป็นประจำค่ะ แต่เวลาถ่ายก็ไม่มีติ่งเนื้อ จนมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ถ่ายแข็งนิดนึงค่ะ และมีเลือดแดงสด ออกมาด้วยนิดนึง ตกใจมากเลยค่ะ พอมาสังเกตุก็พบติ่งเนื้อด้วยค่ะ ลักษณะนุ่มๆ ไม่เจ็บค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาค่ะ ว่าต้องทานยาอย่างไรบ้าง ไม่กล้าไปหาหมอที่โรงบาลค่ะ และไม่อยากผ่าด้วย และราคายาอยู่ที่เท่าไหรคะ ยุ้ย เมื่อ 17/05/2013 - 11:17 ปกติอาการถ่ายเป็นเลือดจะไม่ได้มีทุกครั้งที่ขับถ่ายนะคะ บางคนก็ไม่เป็น ต้องมีสาเหตุค่ะ อาจเพราะเบ่งถ่าย ท้องเสียรุนแรง ทานอาหารแสลง.... ระยะของโรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 -- มีอาการถ่ายเป็นเลือด (บางคนก็ไม่มีอาการนี้) แต่คลำที่ทวารหนักแล้วเจอก้อน แต่ไม่มีการยื่นออกมานอกขอบทวาร ระยะที่ 2 -- ริดสีดวงยื่นออกมานอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระและเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนัก หลังถ่ายอุจจาระ ระยะที่ 3 -- ริดสีดวงยื่นออกนอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก ระยะที่ 4 – ริดสีดวงทวารยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลา – ถ้าติ่งเกิดจากการเป็นริดสีดวงทวาร และติ่งแข็งแล้ว จะหายช้ามากเหมือนติ่งเป็นไตไปแล้ว ต้องทานเพื่อให้ติ่งจากแข็งเริ่มนิ่มก่อน ... แล้วถ้านิ่มแล้ว ติ่งถึงจะค่อยๆฝ่อ... ----------------------------------------- ทานยาดูก่อนนะคะ เพราะถ้าเป็นติ่งที่เกิดจากการเป็นริดสีดวงทวาร ภายในเดือน 2 เข้าเดือน 3 จะเริ่มฝ่อและมีขนาดเล้กลง ... ยาของทางบริษัทผลิตจากสมุนไพร 100 % ไม่มีอันตราย สามารทานได้เพื่อป้องกันด้วย บางคนไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวงภายในหรือเปล่าแต่กลัวเป็นเค้าก็ทานค่ะ การทานยาของบริษัท -- การรักษาต้องใช้เวลานิดนึงนะคะ ... เนื่องจากยาของทางบริษัทเป็นยาสมุนไพร ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ เหมือนยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด ที่จะเห็นผลทันที หรือภายใน 1-2 วัน 1-2 อาทิตย์… เพราะถ้าเป็นริดสีดวงทวารแล้ว คุณหมอตามคลีนิคหรือโรงพยาบาล จะจ่ายยาประมาณ 2 อย่าง บางคนทานเป็นปีๆ และพอหัวริดสีดวงออกมาอยู่ข้างนอกถาวรแล้ว สุดท้ายคุณหมอก็จะนัดผ่าตัด.. และ หลายคนที่เคยผ่าตัดแล้วเกือบทุกคนก็กลับมาเป็นใหม่ ถั่วเฉลี่ยส่วนมากก็ไม่เกิน 3 ปี ก็จะกลับมาเป็นใหม่ บางคนเคยไปเลเซอร์ก็จะกลับมาเป็นใหม่ก็มีคะ..เพราะการผ่าตัดและการเลเซอร์ เป็นการที่เอาหัวที่เห็นออก แต่เค้าไม่ได้รักษาที่ภายใน หรือตรงต้นเหตุ ตรงเส้นเลือดที่อักเสบที่ทำให้เราเป็นริดสีดวง ยาของทางบริษัทเป็นยาตำรับคะ คือนำสมุนไพรหลายตัวที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาผสมกันเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยตรง ไม่ใช่สมุนไพรเดี่ยว คือเป็นเพชรสังฆาต อย่างเดียวคะ .. ตัวยาเพชรสังฆาตเป็นแค่ส่วนประกอบตัวหนึ่งในยาของเราคะ ยังมีสมุนไพรอื่นร่วมด้วยคะที่ไปช่วยเรื่องรักษาอาการอักเสบ บริเวณภายในทวารหนักคะ ------------------------------------------- กรณีที่มีติ่งออกมาแล้ว ... ต้องใช้เวลา เพราะการที่มีติ่งออกมาแล้ว ก็น่าจะเป็นมานานหลายปีแล้ว แต่บางคนก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพราะหัวริดสีดวงอยู่ภายใน เพิ่งมารู้ตัวว่าเป็นก็ตอนที่ติ่งออกมาอยู่ข้างนอก แต่พอติ่งเริ่มรับยาได้ ... ติ่งก็จะค่อยๆฝ่อและหดลงไปคะ ... เรื่องนี้รับรอง เพราะ คนที่เค้าเป็น และหาย หัวริดสีดวงของเค้าจะค่อยๆเล็กลงและหดกลับเข้าไปคะ ... แต่ช่วงเดือนแรกๆ (ถ้ากรณีเป็นมานาน) บางคนอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างแต่สังเกตุเห็นไม่ชัด แต่พอเดือน 2 เข้าเดือน 3 หรือเดือนที่ 3 จะเห็นชัดคะว่าเล็กลง ...
ราคา จะมี 2 ขนาดค่ะ คือ (ห้ามจำหน่ายเกินราคานี้) ---------------------------------------------------------- วิธีรับประทานยา..... การทานยานะคะ.. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงคะ (ควรทานยาก่อนอาหารเพราะร่างกายจะได้นำยาไปใช้ได้เต็มที่คะ ถ้าทานพร้อมมื้ออาหารประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปด้วย) ... และควรทานยาต่อเนื่องนะคะ ไม่ควรทานๆหยุดๆคะ ... เพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง ------------------------------------------------------------------ เรื่อง การทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ... ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ … 1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 % แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น 2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บาง คนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึก ว่าตัวเองเป็น ..... บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ... ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ 4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว 5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลาย ติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา 6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก 7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจ จะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ --------------------------------------------------- -- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล ….. -- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด -- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน -- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ .... ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ... พยายาม อย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของ หนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย -------------------------------------------- โดยส่วนมากแล้ว 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ |
|
Tuktik |
ให้นมบุตรอยู่ทานยาได้ไหมค่ะ |
|
จนท |
ให้นมบุตรอยู่ทานยาได้ไหมค่ะ Tuktik เมื่อ 07/06/2013 - 16:02 ถ้าคุณแม่ธาตุหนัก ไม่มีปัญหาค่ะ สามารถทานยาได้ค่ะ ... ------------------------------------------------------------------ สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ |
|
Grace |
รบกวนถามหน่อยค่ะ อยากซื้อยามาทานเพื่อรักษาริดสีดวงบ้างแต่ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ไม่ทราบว่าทานได้มั้ย แล้วต้องทานปริมาณเท่าไหร่คะ |
|
จนท |
รบกวนถามหน่อยค่ะ อยากซื้อยามาทานเพื่อรักษาริดสีดวงบ้างแต่ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ไม่ทราบว่าทานได้มั้ย แล้วต้องทานปริมาณเท่าไหร่คะ Grace เมื่อ 13/06/2013 - 11:15 ได้ค่ะ ... ทานปกติค่ะ ... ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ตัวยาช่วยลดอาการอักเสบของเส้นเลือด ไม่สะเทือนถึงน้องแน่นอนค่ะ .. |
|
น้ำ |
ทานยาริดสีดวง ร่วมกับยาคุมกำเนิดได้มั้ยค่ะ |
|
จนท |
ทานยาริดสีดวง ร่วมกับยาคุมกำเนิดได้มั้ยค่ะ น้ำ เมื่อ 20/09/2013 - 00:15 ได้ค่ะ ... |
|
preedaporn chanapun |
คือว่าวันนี้นะคะ ได้เข้าห้องน้ำคะถ่ายอยู่ดีๆก็สังเกตว่ามีเลือดสดออกมาค่ะ มันเป็นติ่งแล้วด้วยค่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้เครียดมากเลย ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหาย |
|
จนท |
คนที่เป็นริดสีดวงถึงขั้นมีติ่ง ... ต้องเป็นจากภายในมาก่อน แต่เราไม่รู้ตัว... แล้วติ่งนั้นที่อยู่ภายในจะค่อยๆดันออกมาข้างนอกค่ะ ถ้ากรณีที่ดันออกมาข้างนอกแล้ว ระยะการเป็นริดสีดวงที่อยู่ภายในไม่น่าต่ำกว่า 5 ปีค่ะ อาการถ่ายแล้วมีเลือดออก -- อาการถ่ายเป็นเลือดสามารถเกิดได้กระยะของการเป็นริดสีดวงค่ะ ไม่ว่าริดสีดวงภายในหรือภายนอก หรือสามารถถ่ายเป็นเลือดได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 - 4 ค่ะ . ขึ้นอยู่กับมีปัจจัยอะไรไปกระตุ้นให้เกิดอาการ ... จากอาการของคุณ หลังจากทานยาแล้วอาการดีขึ้นตอนแรกจะเป็นอาการถ่ายเป็นเลือดนะคะ คือไม่เกิน 15 วันอาการถ่ายเป็นเลือดจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และจะค่อยๆหายไป.... หลังจากอาการถ่ายเป็นเลือดหายแล้ว ให้ทานต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งติ่งยุบ หด ฝ่อ จนหดไปเป็นเนื้อเดียวกับทวารหนัก หลังจากไม่เห็นติ่งแล้วให้ทานต่อไปอีก 3 เดือนนะคะเพื่อให้ตัวยาไปรักษาบริเวณเส้นเลือดที่อักเสบ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นริดสีดวงทวาร ให้หายขาด จะได้ไม่ต้องกลับมาเป็นอีก... ------------------------------------------------------ เรื่องการทานยานานเท่าไหร่ เราไม่สามารถระบุให้ได้ ... ขนาดยาแผนปัจจุบันยังรักษากันหลายปี ไม่หายเลยค่ะ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด บางคนผ่าตัดแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ ... ถ้ากรณีที่มีเม็ดมีหัวออกมาแล้วเราสรุปเวลาที่แน่นอนในการทานยาให้ไม่ได้คือเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ปัจจัยที่ว่านะคะ … 1. พฤติกรรมการรับประทานยา .. ถ้าทานต่อเนื่องและทานได้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ช่วงที่ท้องว่าง (เนื่องจากยาไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ) และ ถ้าทานตอนที่ท้องว่างพอแคปซูลละลายตัวยาจะได้ดูดซึมเลย ประสิทธิภาพของยาก็จะออกได้ประมาณ 80-90 % แต่ถ้าทานตอนช่วงที่ทานอาหารแล้ว.. ยาอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอาหารดูดซึมตัวยาไปบางส่วนแล้ว ... ประสิทธิภาพอาจเหลือแค่ 50 % .... และบางคนลืมทานยาบ่อยมั้ย ดังนั้นเลยไม่สามารถบอกเลยคะว่าทานนานแค่ไหน แต่ถ้าทานต่อเนื่อง เข้าเดือนที่ 2-3 ก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วคะ .. บางคนก็เร็วกว่านั้น 2. บริเวณที่เกิดการอักเสบหรือบริเวณเส้นเลือดดำที่โป่งพองแล้วแตกหรืออักเสบทำให้เกิดเม็ดเกิดหัว .... เพราะถ้าหัวริดสีดวงหรือบริเวณที่อักเสบที่เส้นเลือดดำภายใน ถ้าเกิดบริเวณที่อุจจาระไปโดนเวลาถ่ายก็มีโอกาสเจ็บอยู่แล้วคะและเวลาเวลา ขับถ่ายอุจจาระ อุจจาระก็ต้องไปโดนไปเสียดสีทุกครั้งดังนั้นแผลก็จะแห้งช้ากว่า คนที่บาดแผลหรือบริเวณที่อักเสบหรือตำแหน่งที่เกิดหัวริดสีดวงไม่ใช่บริเวณ ที่เวลาถ่ายอุจจาระแล้วอุจจาระไปโดน ...... 3.เป็นมานานแล้วหรือยัง... บางคนเป็นริดสีดวงแล้วไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคือ เกิดริดสีดวงภายในก่อนเป็นมานาน แล้วพอหัวที่อยู่ภายในเกิดออกมาอยู่ข้างนอกเป็นริดสีดวงภายนอกก็เลยเพิ่งนึกว่าตัวเองเป็น ..... บางคนก็ไม่เป็นริดสีดวงภายในเวลาเป็นก็เป็นริดสีดวงภายนอกเลย ... ดังนั้นระยะเวลาการรักษาเลยไม่เหมือนกันคะ 4.เป็นมากเป็นน้อย ... บางคนเป็นแค่นิดเดียวการรักษาก็ไวหน่อย บางคนเป็นมากหัวโตก็ช้าหน่อย บางคนมีแค่หัวเดียว บางคนหัวริดสีดวงแตกมีหลายหัว 5. ติ่งแข็งมั้ย .. ถ้าติ่งแข็งหรือเริ่มแข็งคือไม่นิ่มเหมือนเนื้อปกติก็ต้องให้เวลาตัวยาละลายติ่งให้นิ่มก่อน เพราะถ้าติ่งเริ่มแข็งกว่าเนื้อปกติหรือกลายเป็นไตไปแล้ว (ติ่งแข็งแบบตายด้าน) กว่าติ่งจะรับยาได้ก็ต้องใช้เวลา 6. ท้องผูก ต้องออกแรงเบ่งบ่อยมั้ย .... ถ้าท้องผูกและต้องออกแรงเบ่งบ่อยริดสีดวงก็จะหายช้ามาก 7. ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว บ่อยมั้ย ... ถ้าท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นประจำก็จะหายช้า เนื่องจากการถ่ายเหลวก็เหมือนกับลำไส้ทำงานไม่ปกติค่ะ และการถ่ายเหลวนี่ก็อาจทำให้หัวริดสีดวงไม่หายซักที หรืออาการริดสีดวงเกิดการกำเริบได้ ... เมื่อเราต้องถ่ายเหลว หรือท้องเสีย อาจจะทำให้หัวของริดสีดวงใหญ่ขึ้น หรือมีอาการถ่ายเป็นเลือด เพราะอุจจาระที่ถูกขับออกมาอย่างแรง อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักอักเสบ เป็นผลทำให้หลอดเลือดของทวารหนักขยายตัวและไม่หดกลับ --------------------------------------------------- -- ทานยาวันนึงให้ได้ 3 เวลา ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ... ถ้าเป็นมาก สามารถเพิ่มการทานยาก่อนนอนได้อีก 2 แคปซูล ….. -- ดูแลตัวเองอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ธาตุปกติดีที่สุด -- อาหาร แสลงที่พบในหลายๆคน นะคะ ... บางคนก็ไม่แสลงนะคะ ... เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ .. เนื้อวัว ของหมักดอง ปูเค็ม ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้ง หน่อไม้ ข้าวเหนียว แกงไตปลา น้ำบูดู แกงเหลือง .. อาหารรสชาติเผ็ด หรือเปรี้ยวมากเกินไป ... ถ้างดได้ควรงดก่อน -- เรื่อง อากัปกิริยา ก็มีส่วนนะคะ ที่จะทำให้หายเร็วหรือช้า .... ควรจะดูแลตัวเองร่วมด้วยก็จะหายไวขึ้นค่ะ .... ถ้าต้องนั่งทำงานทั้งวัน ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้มีการไหลเวียนไม่ถูกกดทับนานเกินไป.... ถ้าต้องเดินนานๆ ก็อย่านานเกิน เพราะมันจะมีการเสียดมีนาน จะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น ... พยายามอย่า ยืน เดิน นั่ง นานเกิน ให้ เปลี่ยนท่าบ้าง การนอน ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามนอนคว่ำหรือนอนตะแครง...และพยายามอย่าก้มยกของหนักด้วยนะคะ .. เพราะจะดันให้หัวริดสีดวงออกมาง่าย
-------------------------------------------- โดยส่วนมากแล้ว 90 % จะได้ผล จะมีแค่ 10 % ที่ไม่ได้ผล คือ สอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ |
|
M |
เป็นริดสีดวง แล้วทำไมถึงมีไข้ร่วมด้วยอะครับ แล้วเวลา ปัสสาวะต้อง มีรู้สึกอยากอุจจาระตามแล้วมีเลือดปน(อุจจาระไม่ได้เป็นก้อนปกติ) มันรุ้สึกเกรงช่วงหน้าท้องตอนปัสสาวะ นี่ผมติดเชื้อหรือเป็นหนองรึป่าวครับ ตอนนี้ทานสมุนไพรภูหลวงแค่ตัวเดียว |
|
จนท |
เป็นริดสีดวง แล้วทำไมถึงมีไข้ร่วมด้วยอะครับ แล้วเวลา ปัสสาวะต้อง มีรู้สึกอยากอุจจาระตามแล้วมีเลือดปน(อุจจาระไม่ได้เป็นก้อนปกติ) มันรุ้สึกเกรงช่วงหน้าท้องตอนปัสสาวะ นี่ผมติดเชื้อหรือเป็นหนองรึป่าวครับ ตอนนี้ทานสมุนไพรภูหลวงแค่ตัวเดียว M เมื่อ 15/12/2013 - 21:37 เป็นริดสีดวงทวาร ไม่ได้ทำให้เป็นไข้ได้ค่ะ .. แต่ถ้าคนที่ท้องผุกหลายๆวัน จะทำให้มีความร้อนในร่างกาย อาจทำให้เป็นไข้ได้ค่ะ แล้วเวลา ปัสสาวะต้อง มีรู้สึกอยากอุจจาระตามแล้วมีเลือดปน(อุจจาระไม่ได้เป็นก้อนปกติ) งง นะคะ ... คือ ปัสสาวะแล้วมีเลือด หรือ มีเลือดปนมากับอุจจาระค่ะ ... แล้วอุจจาระ ไม่ได้เป็นก้อนปกติ ... แล้วเป็นแบบไหนคะ ... เพราะอาการที่ว่ามา ปัสสาวะ แล้ว อยากอุจจาระ น่าจะเป็นเพราะ ตอนถ่ายอาจถ่ายไม่สุด แล้วมันยังไม่หมดเลยเหมือนมีอะไรถ่วงๆหรือเปล่าคะ ... มีอาการเกร็งตอนปัสสาวะ ... อาจเป็นเพราะมีการกลั้นปัสสาวะไว้นานไปหรือเปล่า จะเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะมากกว่าค่ะ ไม่ใช่อาการข้างเคียงของริดสีดวงหรอกค่ะ ... |
|
M |
ตอนปัสสาวะมันจะเกร็งช่วงท้อง แล้วมันต้องอุจจาระด้วยอะคับ ซึ่งอุจจาระก็จะมีเลือดปน. อาจเป็นเพราะ ริดสีดวงมันอักเสบ หรือป่าวครับ หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น เพราะตอนถ่ายจะเจ็บตรงทวารหนัก เหมือนทวารหนักเป็นแผล |
|
จนท |
ตอนปัสสาวะมันจะเกร็งช่วงท้อง แล้วมันต้องอุจจาระด้วยอะคับ ซึ่งอุจจาระก็จะมีเลือดปน. อาจเป็นเพราะ ริดสีดวงมันอักเสบ หรือป่าวครับ หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น เพราะตอนถ่ายจะเจ็บตรงทวารหนัก เหมือนทวารหนักเป็นแผล M เมื่อ 17/12/2013 - 16:38 เพิ่งจะเริ่มทานยาของเราใช่มั้ยคะ ... อลงทานให้ครบ 2 อาทิตย์ก่อนนะคะ .. และช่วงที่ทานยาต้องงดอาหารแสลงด้วยนะคะ หรือ อาหารที่ททำให้ลำไส้ระคายเคือง ... เช่น อาหารรสเผ็ด เนื้อวัว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อาหารแสลงของ แต่ละคนที่เป็นริดสีดวง ... ไม่เหมือนกัน บางคนก็ไม่แสลงกับอาหารชนิดไหนเลย บางคนก็แสลงกับอาหารมากกว่า 1 อย่าง ต้องสังเกตุเองค่ะ .... อาหารแสลง คือ ... อาหารที่เราทานไปแล้วแสลงกับโรคที่เราเป็นอยู่ แต่หลายคนจะไม่รู้ อย่างเช่น เราชอบกินส้มตำปูเค็ม ... บางคนกินปูเค็มแล้วก็เห็นว่าไม่แพ้ ก็กินต่อไป แต่ไม่รู้ว่ามันแสลงกับหัวริดสีดวงของเรา คือสังเกตุได้จากเป็นมากขึ้น ... เช่น คนเคยถ่ายเป็นเลือด ตอนไม่ได้ทานก็ดีขึ้น พอทานเข้าไปก็มีอาการถ่ายเป็นเลือดออกมาอีก ... หรือคนที่ติ่งเริ่มยุบ พอทานเข้าไป ก็กลับขึ้นมาอีกหรือ ถ้าหนักหน่อยหัวริดสีดวงอาจแตก ... บางคนไม่มีอาการคันพอทานไปก็เกิดอาการคัน.... เพราะถ้าเรายังทานอาหารแสลง อาการแสลงอาหารจะหายไปเองหรือบรรเทาไปภายในไม่เกิน 10 วัน แต่ 10 วันนี้ทานยาไปก็ช่วยบรรเทา ....
|
|
มิ้น |
|
|
มิ้น |
สวัสดีค่ะ เพิงเป็นริดสีดวงมา 2 วันแล้ว วันแรกคือไม่ได้ถ่ายตรงเวลามา 3 วันก่อนค่ะ เเล้วรู้สึกเจ็บค่ะ แต่พอมาวันที่ 2 เริ่มมีอาการเจ็บค่ะรองเอามือไปสัมผัสที่ทวารมีติ่งอะไรไม่รู้ค่ะพอสัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บมาก ค่ะตอนนี้ก็ทานยา สมุนไพร เพชรสังฆาต อยู่ ค่ะ ต้องใช้เวลานานมั้ยค่ะถึงจะหายจากโรคนี้ เพราะมันเจ็บมากค่ะ มิ้น เมื่อ 25/12/2013 - 14:40
|
|
อั้มม |
สวัสดีครับ เพิงเป็นริดสีดวงมา 2 วันแล้ว วันแรกคือไม่ได้ถ่ายตรงเวลามา 3 วันก่อน เเล้วรู้สึกเจ็บแต่พอมาวันที่ 2 เริ่มมีอาการเจ็บค่ะรองเอามือไปสัมผัสที่ทวารมีติ่งอะไรไม่รู้พอสัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บมาก ตอนนี้ก็ทานยา สมุนไพร เพชรสังฆาต อยู่ ต้องใช้เวลานานมั้ยค่ะถึงจะหายจากโรคนี้ เพราะมันเจ็บมาก |
แสดงความคิดเห็น
หน้าแรก
ผลิตภัณฑ์ภูหลวง
สาระน่ารู้
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา