คุณอาจรู้จักและเคยกินโยเกิร์ต แต่หลายคนคงยังไม่ทราบว่าโยเกิร์ตนั้นเป็นอาหารประจำชาติของชาวตะวันออกกลาง มานับพันๆ ปีตั้งแต่ก่อนคริสตกาลแล้ว โดยเฉพาะแถวๆ ตุรกี อาร์เมเนีย อิหร่าน ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางเมื่อมีการทำสงครามขยาย อาณาจักรในเวลาต่อมา จากนั้นทั่วโลกก็รู้จักอาหารนมชนิดนี้
โยเกิร์ต จะ ว่าไปก็คือน้ำนมหมักเราดีๆ นี่เอง ที่ขายกันในท้องตลาดปัจจบันได้ผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากลซึ่งเน้นความ สะอาดมาแล้ว วิธีการทำโยเกิร์ตนั้นก็ทำโดยการนำน้ำนมดิบไปผ่านกระบวนการโฮโมจีไนเซชั่น ทำให้ไขมันรวมตัวกับน้ำนมได้ดี แล้วจึงนำไปผ่านการฆ่าเชื้อโรคแบบพาสเจอไรส์ จากนั้นจึงค่อยเติมจุลินทรีย์ลงไป เพื่อให้น้ำตาลแลกโตสในนมเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก ทำให้นมมีลักษณะข้นเป็นลิ่มคล้ายคัสตาดหรือเต้าฮวย และมีรสเปรี้ยว จุลินทรีย์ที่นิยมใช้ในการทำนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ชนิดที่มี ประโยชน์ 2 ชนิดคือ แลคโตบาซิลัส บูลการิคัส (Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus) และสเตร็ปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส (Streptococcus salivarius subsp. thermophilus) หลังจากใส่เชื้อแล้วก็หมักน้ำนมไว้ในถังประมาณ 24 ชั่วโมง จึงค่อยนำมาบรรจุใส่ถ้วยเป็นโยเกิร์ตเปล่า หรือนำไปผสมกับแยมผลไม้ต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยน่ากิน
ว่าแต่ทำไมเราถึงต้องกินโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวกันด้วยล่ะ
ก็เพราะมันมีประโยชน์น่ะซีครับ ตามปกติในลำไส้ใหญ่ของเราจะมีจุลินทรีย์ที่เรียกว่า putrefactive ซึ่งจะทำให้เกิดการสลายตัวของโปรตีน ก่อให้เกิดแก๊ส ทำให้ลำไส้ใหญ่ทำงานผิดปกติ เมื่อกินโยเกิร์ตที่มีสภาพเป็นกรดจะไปทำให้ลำไส้เรามีสภาวะไม่เหมาะต่อการ เจริญเติบโตของจุลินทรีย์เหล่านั้น ผลก็คือลำไส้เราก็จะกลับมาทำงานเป็นปกติดังเดิม ในบางคนที่มีปัญหากับการดื่มนมสด ทำให้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย เนื่องจากขาดเอนไซม์แลกเตสที่จะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม เมื่อหันมากินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวก็จะเลี่ยงจากอาการที่ว่านั้นได้ และยังได้สารอาหารต่างๆ จากนมครบถ้วนเหมือนเดิมด้วย ยิ่งคุณเลือกกินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวที่มีปริมาณนมสดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้คุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นครับ
นอกจากนี้ยังเคยมีการศึกษาพบว่า โยเกิร์ตมีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้น บางคนนำโยเกิร์ตเปล่ามาพอกหน้า นานประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละครั้ง เชื่อว่าโปรตีนและวิตามินในน้ำนมจะช่วยทำให้ผิวหน้าขาวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ขึ้น เรื่องนี้หลายคนยืนยันว่าลองมาแล้วกับตัว ซึ่งจะได้ผลดีอย่างไรคงต้องลองดูกันนะครับ
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
ความคิดเห็น