1 วันในอยุธยา
|
||
คุณ เคยรู้สึกเบื่อหน่ายผู้คนรอบข้างที่ชอบเอาตัวรอดแล้ว เอาแต่โทษคนอื่นกันบ้างไหมค่ะอาทิตย์นี้ทีมงานวันว่าง เริ่มรู้สึกเบื่อที่จะอดทนเลยชวนเพื่อนๆ โดดงานไปเที่ยว เมืองกรุงเก่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดอยุธยารู้สึก ตื่นเต้นเหมือนตอนโดดเรียนครั้งแรกยังไงยังงั้นเลยค่ะ
เที่ยวอยุธยา |
||
ทีม งานวันว่าง เริ่มออกเดินทางจากหน้าอาคาร เบทราโกร ตั้งแต่หกโมงเช้า ท้องฟ้ายังไม่ส่อแววว่า จะเป็นใจให้กับ การเดินทางในครั้งนี้เท่าไรนัก การเดินทางไปเมืองกรุงเก่า ในสมัยนี้ง่ายมากค่ะ อย่างทีมงานวันว่างใช้รถยนตร์เป็น พาหนะ ในการเดินทาง โดยใช้ทางหลวง หมายเลข 1 วิภาวดี - รังสิต จากนั้นเมื่อถึงแยกต่างระดับก็ออกซ้าย ขึ้นสะพาน เพื่อเดินทางต่อโดยใช้ ทางหลวงหมายเลข 32 รังสิต - อยุธยา (ห้ามลืมเข้าแยกต่างระดับนี้เด็ดขาดมิฉะนั้นคุณอาจต้องเปลี่ยน จุดหมายจากอยุธยาไป สระบุรีก็ได้ค่ะ)
|
||
น่าเที่ยวน่าชม |
||
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯเวลา 6 โมงเช้าเกือบๆเจ็ดโมงเพียง ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น ทีมงานก็ถึงบางปะอิน แวะทานข้าวเช้า ในตลาดบางปะอิน ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ พอสัก 8.30 คุณๆ ก็ สามารถเข้าชม พระราชวังบางปะอิน ได้แล้วค่ะ โดยเสียค่าใช้จ่าย เพียงท่านละ 50 บาทเท่านั้น สำหรับคนไทย พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในมี พระที่นั่งหลายองค์ที่เคยใช้เป็น ที่ประทับพักร้อนเที่ยวทุ่ง ในสมัยรัชกาลที่ 5 บางปะอินสมัยก่อนยามหน้าน้ำจะกลายเป็นท้องทุ่งกว้างใหญ่มี น้ำเจิ่งนองดอกบัวบานเต็มทุ่ง พระราชวังบางปะอินเดิม สร้างขึ้น ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง มีเพียงพระที่นั่งองค์เดียว |
|
|
คือ พระตำ หนัก ไอสวรรค์ทิพยอาสน์ แต่เมื่อกรุงแตกได้ถูกทิ้งร้าง อยู่ถึง 80 ปี จนกระทั่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้บูรณะ และก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดพระราชวังบางปะอินแห่งนี้อย่างมาก ได้ใช้ เป็นที่ต้อนรับราชอาคันตุกะจากยุโรปอยู่บ่อยครั้งรวมทั้ง
พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย เมื่อครั้งเป็นรัชทายาทแล้วเสด็จมาเยือน ประเทศไทย |
||
วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ฝั่งตรงข้ามพระราชวังบางปะอินยังมีวัดนิเวศน์ธรรม ประวัติซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นด้วยรูปแบบ สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ภายในประดับกระจกสีงดงาม จากประเทศฝรั่งเศส ชมความงดงาม ของสถาปัตยกรรม ของทั้งวัด และ วัง ก็ได้เวลามื้อกลางวันแล้ว |
||
ขอแนะนำ ร้านแพกรุงเก่า
ในเขตจังหวัดอยุธยา ร้านอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำในแม่น้ำ ไหลเอื่อยๆ ลมพัดโชยมาให้ได้กลิ่นดิน บอกได้คำเดียวว่าหาก อารมณ์คุณ กำลังคุกกรุ่นไม่ว่าด้วยเรื่องอันใดก็ตาม มาเจอ บรรยากาศแบบนี้ อารมณ์คุณจะนิ่ง ได้แบบไม่ต้อง ทำใจกันเลย ทีเดียว จากนั้นสั่งกุ้งแม่น้ำมาชิมสักตัว เอาแค่ขนาดกลาง ก็จุใจแล้ว หรือจะสั่งต้มโคล้งมาซดกันให้ชื่นใจอีกสักอย่างก็ ไม่เสียหาย |
||
|
||
อิ่ม ท้องกันแล้วเดินทางต่อเข้าเที่ยวนอกเกาะ เมืองอยุธยาเริ่มที่ สถานที่ๆ ใครมาถึงอยุธยาถ้า ไม่มา ถือว่าเชยกันเลยทีเดียวนั่นคือ เพนียดคล้องช้าง ตั้งหลักกันที่หน้าวัดพระเมร ุไปทางวัดภูเขาทอง จากนั้นจะมีแยกขวาถนนเส้นนี้จะ พาคุณไปสู่เพนียดคล้องช้างซึ่ง ในสมัยก่อนนั้นพิธี คล้องช้างเป็นพิธีสำคัญเพื่อสรรหาทั้งช้างเผือกและ ช้างศึก ใช้ในการออกยุทธหัตถีของพระมหากษัตริย์ พิธีคล้อง ช้างครั้งสุดท้ายนั้นมีขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่เพนียดคล้องช้าง ในปัจจุบัน ก็ยังคงมีการแสดงอยู่ เนืองๆ ซึ่งคุณสามารถหา รายละเอียดได้จาก ททท. จังหวัดอยุธยาถ้าท่านพลาดการ ชมช้างก็ไม่เป็นไร ยังมีกิจกรรมนั่งช้างรอบเมืองเก่าให้ตื่นเต้น อีกหนึ่งรายการสามารถติดต่อได้ที่นี่เช่นกัน
วัดไชยวัฒนาราม บ่ายแก่ๆใกล้เย็นแล้วไปวัดไชยเป็นรายการสุดท้ายดีกว่า วัด ไชยวัฒนารามสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง รูปแบบพระปรางค์เหมือนสมัยอยุธยาตอนต้น องค์ปรางค์จะ เห็นรูเล็กๆ อยู่เต็มไปหมด รูเหล่านี้เกิดจากการตอกหมุดยึดทอง ที่หุ้มองค์ปรางค์ไว้วัดไชยวัฒนารามจะงดงามมาก ในตอนเย็น ที่แสงอาทิตย์ส่องผิวน้ำแล้วสะท้อนมาจับองค์พระพุทธรูป และองค์ปรางค์ ดูแล้วทำให้คิดถึงวันคืนเก่าๆ ที่อยุธยายังคง เป็นเมืองหลวงของชาติไทย อยู่ |
||
ถึง เวลาต้องกลับกรุงเทพฯกันแล้วละค่ะหลังจากเติมพลัง ทางใจ กันมาตลอด ทั้งวัน ขากลับก็อย่าลืมซื้อขนมโรตีไสไหม ไปฝากคนที่ไม่ได้มาด้วยนะค่ะ ขอบอกว่าอร่อยมากส่วนเส้นทาง ในขากลับนั้น
ใช้เส้นทางเดิมกับที่มานั่นแหละค่ะ สะดวก สุดแล้ว |
||
การเดินทาง |
1 วัน ใน... อยุธยา
แหล่งที่มา : http://leisure.mweb.co.th/activityEntertain_Activity_539.htm
ความคิดเห็น